TWPC พร้อมบุกตลาดฐานผู้บริโภคใหญ่ อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ ต่อยอดความสำเร็จ หลังยอดขายทั่วโลก 9 เดือนปีนี้โต 18%

หลังจาก บมจ. ไทยวา (TWPC) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 47.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 15% YoY เป็น 2,603 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 1,264 ล้านบาท ยอดขายจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) 980 ล้านบาท และยอดขายจากธุรกิจอาหาร 512 ล้านบาท แต่หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 7.9% เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาขาย และต้นทุนค่าขนส่งที่ปรับขึ้นตามราคาพลังงาน

สำหรับงบการเงินงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY ตามยอดขายทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโต 18% YoY เป็น 7,801 ล้านบาท ผลจากการมุ่งมั่นตลอดเวลา 3 ปี สร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัทฯ ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ พร้อมกับพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความสามารถของทีมขายให้พร้อมสำหรับตลาดโลก  

โอกาสนี้ นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWPC เปิดเผยถึงแผนงานปีหน้าด้วยว่า พร้อมยกระดับการส่งมอบโซลูชันด้านอาหาร เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ เพราะบริษัทฯ เล็งเห็นแนวโน้มความต้องการโซลูชันด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ อีกทั้งมีความความคุ้มค่าด้านราคา และความสะดวกต่อผู้บริโภค มุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ในทุกตลาด ตลอดจนวางกลยุทธ์สำหรับสินค้าด้านอาหารและนวัตกรรมต่อไป  

ส่วนแผนดำเนินงานระยะกลาง ถึงปี 2568 บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข่งแกร่งทางด้านความสามารถในการดำเนินงานทั้งในจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น Flagship ใหม่  หลังจากบริษัทฯ สามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กว่า 20 รายการในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดอาหาร แป้ง วัตถุดิบออร์แกนิค และวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืนทั่วโลก

พร้อมกันนั้น TWPC จะรุกลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตมากกว่า 15 เมกะวัตต์ (MW) ใน ปี 2568 ทั้งเพื่อช่วยบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และผลักดันการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ ควบคู่ไปกับการผลักดันการทำตลาดบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติก และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นเมกะเทรนด์ อีกด้วย