KILNIQ ร้อนแรงทั้งสัปดาห์ เหตุหุ้นน้อย และโอกาสเติบโต New high 3 ปีนี้

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 36 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 24.50 บาท ถึง 11.50 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 46.9% มีแรงซื้อหนุนอย่างต่อเนื่อง ดันราคาหุ้นขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งปิดตลาดทำจุดสูงสุดที่ 41.50 บาท เหนือจอง 17 บาท ให้ผลตอบแทน 69.4%

และตลอดสัปดาห์ มีแรงซื้อดันราคาหุ้นขึ้นมายืนเหนือ 40 บาท โดยทำจุดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ที่ 45.75 บาท ก่อนจะปิดตลาดสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เข้าซื้อขายวันแรก ที่ 43 บาท เกินจองถึง 75.5%  

ซึ่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และนักกลยุทธ์หลายสำนัก เชื่อว่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวอย่างร้อนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนหุ้นมีจำกัด เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุน VI ที่ได้เข้ามาลงทุนในช่วงขาย IPO ได้ยืนยันแล้วว่า จะไม่ขายหุ้นในมือออกไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน และอีกส่วนหนึ่ง เกิดจากมีการคาดหมายกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 60% ก่อนขยายตัวในปีหน้าและปีถัดไป ในอัตรา 45% และ 34% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ เชื่อว่า การที่ราคาหุ้นพุ่งเหนือจอง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ผ่านการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติม รวมถึงขยายสาขาคลินิกเวชกรรมประมาณ 6-10 สาขาต่อปี ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี และลงทุนเพิ่มศูนย์ศัลยกรรมในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะคืนทุนภายใน 3-4 ปี

"แบรนด์ THE KLINIQUE ที่แข็งแกร่ง และการมีจุดแข็งเรื่องโปรแกรมการรักษาที่ผสมผสานระหว่างนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย กับความเชี่ยวชาญในการให้การรักษา รวมถึงการให้บริการที่ได้มาตรฐาน สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าเดิมหวนกลับมาใช้บริการซ้ำ ขณะที่การมีสาขาเพิ่ม จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตก้าวกระโดด และผลักดันให้โอกาสเติบโตของกำไรทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่เปิดกว้างมากขึ้นตามไปด้วย" ผู้บริหาร KLINIQ ชี้ประเด็น

ปัจจุบัน KLINIQ มีสาขาทั่วประเทศ 39 สาขา แบ่งเป็นคลินิกเวชกรรม 35 สาขา ศูนย์ศัลยกรรม 1 สาขา และร้านทำเล็บ 3 สาขา มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ช่วงอายุระหว่าง 20-55 ปี ขณะที่ผลดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 714.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 58.26% และมีกำไรสุทธิ 100.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.03% YoY เกือบใกล้เคียงกำไรสุทธิปีที่แล้วทั้งปีที่ทำได้ 129.25 ล้านบาท