คาด FPI กำไรปีนี้และปีหน้า ทำ New high ต่อเนื่อง หลายปัจจัยหนุน

หลังจาก บมจ. ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า มีรายได้รวม 731.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 116.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% YoY หนุนให้ผลดำเนินงาน 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ ทำรายได้รวมที่ 2,025.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% YoY และมีกำไรสุทธิ 323.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.9% YoY

โอกาสนี้ นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FPI ชี้แจงว่า การเติบโตของกำไรมีสาเหตุหลักจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามคำสั่งซื้อที่เร่งตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และค่าระวางที่ปรับลดลง 50-75% ผลักดันให้ยอดขายในทวีปตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย เติบโตดีขึ้น หนุนด้วยการที่บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทลูกที่อินเดียสามารถทำยอดขายได้เติบโตก้าวกระโดดอย่างที่คาดหวัง ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะเห็นการเติบโตของยอดขายและกำไรดีต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ ผลักดันให้ผลดำเนินงานรวมปีนี้ทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high)   

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เบื้องต้น ค่ายโกลเบล็ก (GBX) ระบุว่า น่าจะเห็น FPI โชว์ผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านพ้นไป (QoQ) จากคำสั่งซื้อในปัจจุบันที่ค่อนข้างแน่น ประกอบกับค่าระวางที่ปรับลงราว 50-75% ทำให้ลูกค้าบางรายเร่งคำสั่งซื้อเพิ่มเติมชดเชยจากช่วงก่อนหน้าที่ต้นทุนค่าขนส่งแพง นอกจากนี้ ไตรมาส 4 ยังเป็น High Season ของปี ขณะที่บริษัทลูกที่อินเดียคาดจะพลิกมีกำไรในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เพราะสามารถปรับราคาขายสินค้าให้สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้ ผลักดันให้กำไรรวมปีนี้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างที่ผู้บริหารคาดเอาไว้ โดยคงประมาณการรายได้รวมทั้งปีที่ 2,642 ล้านบาท ขยายตัว 26% YoY และคาดกำไรสุทธิทั้งปี 464 ล้านบาท เติบโต 41% YoY

นอกจากนี้ ยังคาดว่า บริษัทฯ จะทำกำไรทุบสถิติ New high ในปีหน้าได้ต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อที่มีในมือ (Backlog) ราว 1 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีละ 500 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายกลุ่มชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนคาดยังเติบโตดี ส่วนหนึ่งจากการเปิดโมเดลใหม่ในกลุ่มรถยนต์อเมริกัน อีกส่วนหนึ่งจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ในทวีปแอฟริกาและอเมริกาเหนือ อย่างอียิปต์ และเม็กซิโก หนุนให้รายได้ปีหน้าเติบโต 10% YoY เป็น 2,906 ล้านบาท ผลักดันให้กำไรสุทธิขยายตัว 12% YoY เป็น 519 ล้านบาท คิดเป็นราคาเหมาะสมปีหน้าที่ 5.15 บาท มี upside จากราคาปัจจุบันกว่า 38% ไม่นับรวมเงินปันผลที่คาดจะจ่ายในอัตรา 3-4% ต่อปี จึงแนะนำ "ซื้อ"