KJL เตรียมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai 22 พ.ย.นี้ คาดกระแสตอบรับอบอุ่น หลังหุ้นจองขายหมดตั้งแต่วันแรก

2428 จำนวนผู้เข้าชม  | 

KJL เตรียมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai 22 พ.ย.นี้ คาดกระแสตอบรับอบอุ่น หลังหุ้นจองขายหมดตั้งแต่วันแรก

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค (KJL) ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตตู้ไฟ สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ และงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิ เศษ Sheet Metal Works ด้วยเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น แบบครบวงจร แบรนด์สินค้า KJL และสินค้าสั่งผลิต เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 9 – 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผ่านบริษัทฯ และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งศักยภาพการเติบโต และโอกาสในอนาคตของบริษัทฯ 

 

 

เหตุผลประการหนึ่ง ก็คือ ผลดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปั (2562-2564) มีรายได้รวม 753.67 ล้านบาท 708.18 ล้านบาท และ 845.78 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ปีละ 5.93% แต่กลับมีการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่ง วัดจากกำไรสุทธิที่เร่งตัวจาก 19.49 ล้านบาท เป็น 90.97 ล้านบาท และ 94.04 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานช่วงครึ่งแรกปีนี้ KJL มีรายได้รวม 502.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.79 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 18.3% และ 37.4% ตามลำดับ จนทำให้มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มผลดำเนินงานทั้งปีนี้ จะเติบโตอย่างโดดเด่น 

ที่สำคัญ เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน สนับสนุนให้ KJL สามารถขยายกำลังการผลิตรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสการเติบโตแบบ Growth Stock สอดรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศขณะนี้ 

ทั้งนี้ KJL ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ราคาหุ้นละ 13.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) 13.99 เท่า และพร้ัอมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 22 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม 

 

 

ด้านนายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KJL กล่าวขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและแผนลงทุนที่มีความชัดเจนของบริษัทฯ ทำให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO อย่างล้นหลามเกินความคาดหมาย โดยบริษัทฯ มีแผนจะเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 385 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น จำนวน 50 ล้านบาท และใช้ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต โดยลงทุนก่อสร้างโรงงาน และลงทุนเครื่องจักร จำนวน 80 ล้านบาท ลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) จำนวน 25 ล้านบาท รวมถึงลงทุนศูนย์นวัตกรรม (KJL Innovation Campus) จำนวน 200 ล้านบาท ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับกลยุทธ์การเติบโตหลังการลงทุน บริษัทฯ ประเมินว่า จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า เติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 15-20 % สามารถรองรับการเติบโตของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะหันมาใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าเข้ามาใช้ทดแทนพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้เพียงพอ ส่งผลให้สินค้าของ KJL เติบโตไปพร้อมกับความต้องในการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดจนสามารถช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง KJL กับผู้ประกอบการ พันธมิตร ตลอดจนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ในการร่วมออกแบบ การดีไซน์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในมิติต่าง ๆ ไปด้วยกัน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ รับเทรนด์โลกในอนาคต ภายในศูนย์นวัตกรรม KJL ที่จะสร้างเสร็จภายในปี 2568 และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 


นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจให้แข็งแกร่ง ตลอดจนสร้าง Brand Awareness ให้ผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างพันธมิตรเพิ่มเติม ช่วยต่อยอด และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่ยกฐานะ KJL ให้เป็น "ผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคตคุณ" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้