KJL ยืนเหนือจองทั้งวัน หลังผลดำเนินงานปีนี้ส่อเค้า New high และแผนระดมทุนมุ่งเน่้นสร้าง New S-Curve

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ของ บมจ. กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค (KJL) ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) แต่อย่างใด เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองตลอดทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 17.20 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 13.50 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 27.4% มีแรงซื้อหนุนเข้ามาเป็นระยะๆ ดันราคาให้ไต่ระดับขึ้นไป กระทั่งทำจุดสูงสุดที่ 19.10 บาท ในการซื้อขายภาคบ่าย ก่อนจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกระจายตัวออกมา เพื่อบริหารความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง กดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลงมา และปิดทำการที่ 17.80 บาท สูงกว่าราคาจอง 4.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 31.8% 

โอกาสนี้ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KJL เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ถือเป็นก้าวสำคัญและความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ซึ่งต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับหุ้น KJL อย่างอบอุ่น ช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนพร้อมมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีคืนกลับนักลงทุน โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ บริษัทฯ จะมุ่งขยายกำลังการผลิต การใช้ระบบออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุน รวมถึงขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า ร่วมกับพันธมิตร และคู่ค้าต่างๆ ผ่านศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus  พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของ KJL Network ต่อยอดธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เฉพาะปีนี้ คาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้ในอัตรา 10-15% เพราะแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 ยังสดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ

"บริษัทฯ พร้อมมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมั่นว่าหลังการระดมทุน KJL จะมีฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น สามารถสร้าง New S-Curve ให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดและก้าวสู่ระดับสากล  ในฐานะผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคตคุณ รองรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคต" นายเกษมสันต์ ให้คำมั่น 

ส่วนนายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บอกว่า การที่ราคาหุ้นยืนเหนือจอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ KJL ในการยกระดับการทำธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาศักยภาพในการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย เพื่อตอกย้ำภาพการเป็นหุ้นที่ผสมผสานระหว่าง Growth Stock และ Dividend Stock ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน 

"การที่ราคาหุ้น KJL ยืนเหนือจองทั้งวัน นอกเหนือจากความมั่นใจในการบริหารและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ แล้ว นักลงทุนยังเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการที่มีโอกาสเติบโตได้อีกไกลในอนาคต เฉพาะปีนี้ ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 758.97 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 98.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 22.27% และ 45.11% ตามลำดับ โดยกำไรสูงกว่ากำไรทั้งปีของปีก่อนแล้ว ซึ่งเมื่อประเมินแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเห็นบริษัทฯ โชว์รายได้และกำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ สะท้อนภาพการเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) ได้เป็นอย่างดี" ที่ปรึกษาทางการเงิน ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ KJL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ไฟสวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ อุปกรณ์ที่ใช้เดินสายไฟ ภายใต้เครื่องหมายการค้า KJLรวมถึงสินค้าสั่งผลิต (Made to Order) งานระบบไฟฟ้าและงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษในรูปแบบที่หลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ แบบครบวงจร โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น