2477 จำนวนผู้เข้าชม |
นายสมชาย อ่วมกระทุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) บอกว่า การที่บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 459 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้ ไปจนถึงปี 2570 และมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ เพื่อเติม backlog มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากได้เข้าร่วมประมูลงานช่วงก่อนหน้านี้มูลค่าประมาณ 530 ล้านบาท โดยอยู่ในระหว่างรอเซ็นต์สัญญาอย่างเป็นทางการประมาณ 311 ล้านบาท ในเร็วๆ นี้ ประกอบกับบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นเป็น 26.11% อีกทั้งผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 39.27 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วทั้งปี ทำให้เชื่อมั่นว่าผลดำเนินงานปีนี้ ทั้งในส่วนรายได้และกำไร จะสร้างสถิติสูงสุด (All Time high) นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ขึ้นมา
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทฯ พร้อมขยายฐานรายได้และกำไรจากทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำหน่าย และออกแบบติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator – SI) หรือธุรกิจให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ (Maintenance) ซึ่งมีความจำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้มากขึ้น พร้อมกับเร่งขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายลูกค้าที่มีข้อจำกัดทางการเงิน แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้สูงขึ้นควบคู่กันไปด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายฐานตลาดของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
มุมมองของผู้บริหารข้างต้น ได้รับการตีความจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ค่าย ดาโอ (DAOL) ว่า จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเข้าร่วมประมูลโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้น จากฐานเงินทุนที่สูงขึ้น ผลักดันให้กำไรเติบโตสูงขึ้น โดยคาดกำไร 3 ปีนี้ (2565-67) จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในอัตรา 37% เพราะประเมินว่า การมีกระแสเงินสดในระดับ 300 ล้านบาท จะทำให้ ITNS สามารถสร้างรายได้เพิ่มปีหนึ่งๆ ราว 1 พันล้านบาท
ในเบื้องต้น DAOL คาดการณ์กำไรปีนี้ ที่ 46 ล้านบาท (+42% YoY) ก่อนเพิ่มเป็น 67 ล้านบาทในปีหน้า (+44% YoY) หนุนโดยการเร่งประมูลงานใหม่เพิ่มในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เพิ่ม backlog ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มทีมขายเป็นเท่าตัวเพื่อสนับสนุนการขยายตัวในธุรกิจ SI, Maintenance และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้สูงขึ้นจากที่ทำได้ทุกวันนี้ 1% เป็นการล่วงหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต ทำให้ประเมินมูลค่าเหมาะสมปีหน้าที่ 5.20 บาท อิง PER ที่ 17.0 เท่า โดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจ SI ใกล้เคียงกัน อย่าง AIT, MFEC, SAMTEL และ TPS ซึ่งมีค่ําเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี ในอดีตที่ 17.5 เท่ํา