AURA ทะยานเหนือจองทั้งวัน ที่ปรึกษาการเงินเชื่อแผนขยายสาขาและขยายพอร์ตขายฝากทองคำ ผลักดันธุรกิจโตเด่น

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ของ บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) แต่อย่างใด เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 13.90 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 10.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 27.5% มีแรงซื้อสลับขายทำกำไรกระจายตัวออกมาเป็นระยะๆ แต่ราคาหุ้นก็ไม่หลุด 13.60 บาท โดยแกว่งบริเวณ 14.10-14.30 บาท เป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 14.80 บาท ช่วงท้ายตลาด และปิดทำการที่ 14.70 บาท สูงกว่าราคาจอง 3.80 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 34.8%

ซึ่งการที่ราคาหุ้นยืนเหนือจองทั้งวัน ได้รับการชี้แจงจากนายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย (KS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า เกิดจากธุรกิจมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต และยังเป็นหุ้นตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เป็นร้านค้าปลีกทองรูปพรรณและเครื่องประดับแบบครบวงจร จึงทำให้มีกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ตั้งแต่ช่วงเปิดขาย IPO และน่าจะมีอย่างต่อเนื่องหลังเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน จากพื้นฐานของธุรกิจ และการใช้เงินระดมทุนขยายฐานรายได้และกำไรให้เติบโต ผ่านแผนขยายสาขาเชิงรุก เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด โดยคาดกำไรปกติเฉลี่ย 3 ปีนี้ (CAGR) อยู่ที่ 26%

ขณะเดียวกัน นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AURA อธิบายเพิ่มเติมว่า พร้อมลงทุนขยายพอร์ตธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ เครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ โดยมุ่งขยายธุรกิจรับขายฝากภายใต้แบรนด์ ‘ทองมาเงินไป’ ในทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและโรงงาน โดยตั้งเป้าขยายธุรกิจรับขายฝากเป็น 3,846 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการขยายสาขาหน้าร้านในทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เพิ่มจาก 266 แห่ง เป็น 409 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดในหัวเมืองต่างๆ และแหล่งชุมชน ภายในปี 2567 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่มีศักยภาพทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน จะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ ผ่านการเปิดร้านเครื่องประดับเพชรระดับพรีเมียม เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ ทั้งเพื่อส่งเสริมการขาย และเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า โดยมีแผนพัฒนาฟีเจอร์รองรับบริการหลังการขายในอนาคต และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ที่มีมากกว่า 180 ราย เพิ่มเติม