2291 จำนวนผู้เข้าชม |
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย "แมกซ์ เวนเจอร์ส (MAX Ventures)" เพื่อเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทสตาร์ทอัพ (Startup) ที่มีศักยภาพสูง ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับคู่ค้าในรูปแบบต่างๆ และเป็นแกนกลางสำคัญในการสร้างนวัตกรรม หรือ ธุรกิจ New S-Curve รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่ง และต่อยอดธุรกิจในเครือข่ายของ PTG ให้มีครบทั้งความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมดูแลความอยู่ดีมีสุขของคนไทย
ทั้งนี้ MAX Ventures จะทำหน้าที่ในการสร้างรายได้ และจัดหาโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มบริษัทในเครือ PTG ใน 3 รูปแบบ คือ
ในเบื้องต้น MAX Ventures กำหนดประเภทของธุรกิจที่ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุน ว่า จะพุ่งเป้าไปที่ 4 กลุ่ม คือ
1. กลุ่ม Connection เป็นศูนย์กลางสร้างความเชื่อมโยงธุรกิจที่สามารถ Connect คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหน ให้เข้ามาอยู่ในเครือข่ายของ PTG ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดประสบการณ์ที่ดีในวงกว้าง
2. กลุ่ม Wellness and Wellbeing สร้างศูนย์กลางใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย
3. กลุ่ม Developing Opportunities เป็นศูนย์กลางในการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ บนความร่วมมือกับกลุ่ม PTG ด้วยการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจรายย่อยที่ขาดเงินทุนพัฒนาสินค้าและบริการ แต่มีโมเดลธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะ Startup ในรูปแบบแพลตฟอร์มเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือการขนส่ง
4. กลุ่ม Value added Experience ธุรกิจที่สามารถมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบาย และมีคุณค่าให้ลูกค้า รวมถึงธุรกิจที่สามารถพัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้า และส่งเสริมสินค้า หรือบริการใหม่ๆ ของกลุ่ม PTG ให้สามารถตอบสนองความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างยั่งยืน
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านการเงินให้แก่สตาร์ทอัพ และทำงานร่วมกันที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว MAX Ventures ยังพร้อมให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจ ตลอดจนทรัพยากรอื่นๆ เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน และให้การสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพไทย
สำหรับกลุ่มการเริ่มต้นสร้างธุรกิจใหม่ (Incubation) ทาง MAX Ventures จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรม ทั้งการเตรียมความพร้อมธุรกิจ และการคัดเลือกผู้ประกอบการภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย 5 แห่ง ที่ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ร่วมกัน ประกอบด้วย สถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยี และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี