KTMS หุ้น IPO ตัวสุดท้ายปี 2565 ไม่สร้างความผิดหวังนักลงทุนที่ได้หุ้นจอง เหตุธุรกิจระยะสั้นเติบโตเด่น ระยะยาวเป็นหุ้นยั่งยืน

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ทั้งวัน แต่คึกคักมากในครึ่งวันเช้าก่อนจะรูดตัวในครึ่งวันบ่าย โดยหลังจากเปิดตลาดอย่างร้อนแรงที่ 5.10 บาท สูงเกินราคาจองที่ 3.10 บาท ถึง 2 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 64.52% มีแรงซื้อดันราคาทำจุดสูงสุดที่ 5.15 บาท แต่หลังจากนั้น เริ่มมีแรงขายทำกำไรกระจายตัวออกมา กดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลงมา แต่ราคายังยืนเหนือ 4.50 บาทได้ตลอดการซื้อขายภาคเช้า ก่อนจะโดนแรงขายกระหน่ำในภาคบ่าย กดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ 3.74 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อหนุนเข้ามาดันราคาหุ้นไต่ขึ้นมาปิดตลาดที่ 3.84 บาท ให้ผลตอบแทน 23.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,124 ล้านบาท

โอกาสนี้ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บอกว่า กระแสตอบรับจากการเข้าซื้อขายวันแรก สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบครบวงจร (One-stop Services) รายแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในธุรกิจมาตลอด 15 ปี จนได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน ให้ร่วมกันดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐต่างๆ  

ที่สำคัญ KTMS มีบริษัทย่อยมีความเชี่ยวชาญในระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบบำบัดน้ำเสีย มากว่า 20 ปี จึงทำให้บริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ด้านการให้บริการอย่างมีคุณภาพ มีมาตรฐานระดับสากล และยังมีจุดเด่นตรงธุรกิจของบริษัทฯ อยู่ในช่วงที่มี อัตราการเติบโตสูง ความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ยั่งยืนในระยะยาว ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า จะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นั กลงทุนได้อย่างแน่นอน 

ขณะที่นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBX) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เสริมว่า การระดมทุนครั้งนี้ จะสามารถต่อยอดและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้ KTMS มีความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว จากแผนขยายสาขาที่รวดเร็ว ครอบคลุมในทุกพื้นที่ สามารถรองรับการให้บริการผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15% ตามกระแสสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมีการทำงานของไตเสื่อมลง ส่งผลเชิงบวกให้ KTMS มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยประมาณ 30% ตอกย้ำการเป็นหุ้น Growth Stock

ส่วนนางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTMS เชื่อมั่นว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รองรับการเติบโตในอนาคต ผ่านการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนกว่า 237 ล้านบาท ไปต่อยอดธุรกิจด้วยการลงทุนสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 155 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 14 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) 6 สาขา และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล (Outsource) 8 สาขา ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีจำนวนเครื่องไตเทียมเพิ่มอีก 123 เครื่อง หรือเพิ่มจากปัจจุบันกว่า 50% สามารถรองรับปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15% ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 61 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันให้รายได้สามารถเติบโตเฉลี่ย 30% ในระยะสั้นถึงกลาง และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เข้าทำนองหุ้นยั่งยืน (ESG)  

ในเบื้องต้น ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์พาย (PI) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น KTMS บอกว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิในปีหน้าว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจฟอกไตที่ได้แรงหนุนจากนโยบายของภาครัฐ และจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงแผนขยายสาขา จาก 20 แห่ง ในสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ เป็น 34 สาขา ในสิ้นปีหน้า และมีจำนวนเครื่องไตเทียมให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 254 เครื่อง ในสิ้นไตรมาส 3 เป็น 377 เครื่อง ในสิ้นปีหน้า ผลักดันให้กำไรสุทธิปีนี้เติบโต 20% ขยายตัวเป็น 124% และ 29% ในปีหน้า และปีถัดไป จากการรับรู้รายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเติบโตในระดับ 22% คิดเป็นมูลค่าเหมาะสมปีหน้าที่ 4 บาท