2399 จำนวนผู้เข้าชม |
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท สยามออโต้แบคส์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่กลุ่ม PTG เข้าไปลงทุนในธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์แบบครบวงจรมาตรฐานอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ด้วยการซื้อหุ้นบริษัทสยาม ออโตแบคส์ (AUTOBACS) ในสัดส่วน 38.26% ครั้งแรกในปี 2560 ก่อนซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 76.52% ในปี 2563 ส่งผลให้มีอำนาจในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเต็มตัว พร้อมกับเป็นผู้ได้รับสิทธิในการขยายศูนย์บริการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ PTG สร้างการเติบโตทางธุรกิจได้แข็งแกร่งขึ้น ลดการพึ่งพิงธุรกิจน้ำมัน (Oil) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างจำกัด
การที่ PTG สามารถกำหนดแนวทางการทำธุรกิจของ AUTOBACS ได้ ทำให้มีการปรับบทบาทศูนย์บริการมาเน้นการให้คำปรึกษาลูกค้ามากกว่าเน้นการขาย เจ้าหน้าที่ในศูนย์บริการจะคอยให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพรถยนต์ของลูกค้าว่า ชิ้นส่วนนี้จะมีระยะเวลาการใช้งานเท่าไร เหลือระยะเวลาเท่าไรถึงควรจะเปลี่ยน รวมถึงวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยปล่อยให้การตัดสินใจทุกอย่างเป็นของลูกค้าว่าจะเปลี่ยนหรือซ่อมทันทีหรือไม่ ซึ่งแนวทางนี้ทำให้ AUTOBACS ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จนประสบความสำเร็จมากขึ้นเป็นลำดับ
ทั้งนี้ ออโต้แบคส์ มีจุดแข็งในเรื่องของ Network มีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอยู่แล้ว และมีการรักษามาตรฐานที่ดีให้กับลูกค้ามาตลอด อีกทั้งยังมีทีมงานจากญี่ปุ่นเข้ามาตรวจสอบเพื่อประเมินทุกปี มีการฝึกอบรมพนักงานอย่างเป็นระบบ เพื่อควบคุมมาตรฐานทุกด้าน แต่เน้นเพิ่มมาตรฐานการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในลักษณะ “ใจเขา ใจเรา”
ปัจจุบันออโต้แบคส์ มีสาขาให้บริการทั้งสิ้น 46 สาขา และมีแผนเปิดเพิ่มอีก 50 สาขาในปีหน้า ก่อนขยายเพิ่มเป็น 200 สาขา ภายในปี 2568 และมีแผนจะเปิดพรีออเดอร์อะไหล่ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์แต่งรถสปอร์ตจากญี่ปุ่น เพิ่มเติมอีกด้วยโดยกลุ่ม PTG ตั้งเป้าให้ AUTOBACS ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์อันดับ 1 หรือ 2 ภายใน 3-4 ปีนี้