2936 จำนวนผู้เข้าชม |
โครงการเสริมความรู้ SMEs ของ บมจ. ธนาคารทีเอ็มบี ธนชาต หรือ ทีทีบี (Finbiz by ttb) ได้จับเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในปี 2566 เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สามารถวางแผน และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อยอดการเติบโตในอนาคต สรุปได้ว่า มี 6 ธุรกิจดาวเด่น ดังนี้
1) ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะสปา นวดไทย นวดหน้า บริการด้านส่งเสริมรูปร่างและความงาม คลินิกศัลยกรรม ฟิตเนส จะยังเป็นดาวเด่นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนเชื่อว่า สามารถดูแลตัวเองให้ลดความเสี่ยงและจัดการกับโควิดได้ เข้าใจความเป็นไปของโรคมากขึ้น จึงกล้าที่จะใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างเต็มรูปแบบ แต่มีความระมัดระวัง
2) ธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและประโยชน์ต่อโลก กลุ่มร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงคุณภาพ เช่น กลุ่มโซเดียมต่ำ หรืออื่นๆ โปรตีนจากพืช อาหารสุขภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมไปถึงอาหารที่ไม่ทำร้ายโลก เช่น ธุรกิจอาหารที่มีการเลี้ยงสัตว์ ที่นำมาผลิตอาหารที่ลดก๊าซมีเทน ธุรกิจอาหารที่ได้มาจากการปลูกพืชที่ไม่ได้เกิดจากการเผาไร่ หรือทำลายผิวดิน อาหารที่ลดการใช้สารเคมีทั้งในอาหาร และไม่ทิ้งสารเคมีไว้ให้สิ่งแวดล้อม
3) ธุรกิจค้าปลีกทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ แบบ Omni Channel จากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างยาวนาน ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มติดนิสัยค้นหาสินค้าแบบออนไลน์แล้ว ส่วนผู้บริโภคกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าในทันที จะออกมาสัมผัสสินค้าตัวจริงที่อยู่บนหน้าร้านแบบออฟไลน์ แล้วค่อยตัดสินใจซื้ออีกครั้งบนช่องทางออนไลน์ หรือตัดสินใจซื้อที่หน้าร้านทันที เพราะการค้าปลีก และ e-commerce แทบไม่สามารถแยกออกจากกันได้แล้ว
4) ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น แบตเตอรี่ เหล็ก รวมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมประหยัดพลังงานอื่นๆ เช่น แผงโซลาร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน เซ็นเซอร์ที่ใช้ในครัวเรือน เช่น เซ็นเซอร์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ เชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพื่อสร้างความเหมาะสมในการใช้พลังงานในบ้าน เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการเป็น Smart Home รวมไปถึงงานบริการที่เกี่ยวกับการออกแบบติดตั้งระบบนวัตกรรมประหยัดพลังงานเพื่อโลกและคุณภาพชีวิต และช่วยให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายและการเปลี่ยนแปลงของราคาทรั พยากร
5) ธุรกิจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง จากการสำรวจของ Morgan Stanley พบว่า เกือบ 70% ของผู้เลี้ยงให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ดังนั้น ธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงจึงมีโอกาสที่จะเติบโตในทุกกิจวัตรที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารสัตว์คุณภาพสูง อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แชมพูดูแลขน ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟัน ของเล่น เสื้อผ้า ที่นอน ที่ให้อาหารอัตโนมัติ บริการสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารแบบ Pet Friendly รวมถึงกิจกรรมสัตว์เลี้ยง เช่น สถานที่สำหรับสัตว์ได้วิ่งเล่น สระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง
6) ธุรกิจท่องเที่ยว ขนส่งผู้โดยสาร ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเพื่อความบันเทิง จากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเกือบเหมือนปกติก่อนโควิด ดังนั้น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านของผู้คนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปท่องเที่ยวใกล้ หรือไกล การขนส่ง ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมบันเทิงและสันทนา การพักผ่อน การรับประทานอาหาร กลุ่มนี้ล้วนมีโอกาสพลิกฟื้นกลับไปสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด
ทั้งนี้ ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม กับธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ เป็นกลุ่มธุรกิจที่คว้าแชมป์เทรนด์ตั้งแต่ปี 2564 ต่อเนื่องถึงปีที่แล้ว ยังคงไปได้สวย ส่วนกลุ่มธุรกิจที่มาแรงเมื่อปีที่แล้ว อย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมประหยัดพลังงาน และอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ยังมีความน่าสนใจต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มมาแรง
เมื่อผู้ประกอบการเห็นโอกาสในการทำธุรกิจจากเทรนด์ที่กำลังจะมาถึงแล้ว การเตรียมความพร้อมสำหรับการขายในทุก Touchpoint ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันลูกค้าพร้อมตัดสินใจซื้อได้ทั้งบนโลกออนไลน์และหน้าร้าน ทำให้การทำธุรกิจจะต้องตอบพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความหลากหลายและต้องตอบสนองได้อย่างดีในทุก Touchpoint ทำให้ร้านค้าหรือธุรกิจที่มีความพร้อมกว่า จะสร้างความได้เปรียบในการปิดการขาย และไม่พลาดโอกาสในการเดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนแข็งแกร่งได้
ที่สำคัญ การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องมี 4 C ที่ประกอบด้วย Care (จริงใจ ให้ของดี มีคุณภาพ) Convenience (ผู้บริโภคสมัยนี้ ใจร้อนขึ้นและต้องความสะดวกรอบด้าน เช่น หาของต้องง่าย จ่ายเงินต้องง่าย ซื้อซ้ำก็ต้องง่าย สะดวกทุกทาง) Consistency (การสื่อสารต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าไม่ได้มีผู้ขายเป็นเรารายเดียวอีกต่อไปแล้ว) และ Complain freak (รับฟังเสียงของลูกค้า ให้ความสนใจและแก้ไขอย่างจริงจัง) เพื่อให้สามารถผูกใจลูกค้า และวางแนวทางรับมือปัญหาที่อาจเกิดในระหว่างทางเพิ่มเติมด้วย