2485 จำนวนผู้เข้าชม |
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท ชัยวัฒนา กรีน (CWTG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า ไออีซี สระแก้ว 1 (SK1) ผ่านการซื้อหุ้นสามัญจาก บมจ. อินเตอร์แนชั่นแนล เอนจีเนียริง (IEC) ในสัดส่วน 100% คิดเป็นมูลค่า 227.94 ล้านบาท พร้อมที่ดิน 60 ไร่ 116 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว อีก 10 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 237.94 ล้านบาท คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้ โดยภายหลังทำรายการแล้วเสร็จจะส่งผลทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีปีละ 300 ล้านบาท ที่สำคัญ การที่โรงโฟฟ้า SK1 ยังตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงไฟฟ้าเดิมของกลุ่ม CWTG อีกด้วย ทำให้สามารถบริหารจัดการร่วมกัน ส่งผลบวกต่อการบริหารต้นทุน และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับกลุ่ม CWT ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ SK1 ดำเนินธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในอำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ผ่านโครงการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Feed-in Tariff) ที่จำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ปริมาณพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 8 เมกะวัตต์ (MW) จากขนาดกำลังการผลิต 9.6 เมกะวัตต์ (MW)
กรรมการผู้จัดการ CWT ยังบอกด้วยว่า การเข้าลงทุนใน SK1 ครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทฯ ในการขยายรายได้จากการผลิตและขายไฟฟ้าปีนี้เพิ่มเป็น 50 MW ภายในปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการ Spin Off ธุรกิจพลังงานสะอาดเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ปัจจุบัน กลุ่ม CWT มีโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 1 โครงการ ในรูปแบบโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 MW ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาคือ โรงคัดแยกขยะเป็นเชื้อเพลิง RDF อยู่ระหว่างพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้า ปัจจุบันได้สัญญาบริหารจัดการขยะแล้ว 25 ปี และล่าสุด เพิ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง (RDF) และผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลกมลาไสย กำลังการผลิต 6 MW ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาภายในเร็วๆ นี้ หนุนให้แนวโน้มผลดำเนินงานปีนี้เติบโตสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All time high) ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเบาะหนัง มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการส่งมอบงานอย่างชั ดเจน เช่นเดียวกับธุรกิจประกอบผลิตรถและเรือเพื่อการขนส่ง ผ่านบริษัท สกุลฏ์ซี อินโนเวชั่น (SKC) พร้อมส่งมอบงานตามกำหนดเช่ นกัน ขณะที่ธุรกิจจำหน่ ายไฟฟ้าช่วยหนุนรายได้ประจำสม่ำเสมอ