3189 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) แต่อย่างใด เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 62.25 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 46 บาท ถึง 16.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 35.33% มีแรงซื้อกระจายตัวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนุนให้ราคาหุ้นยืนเหนือราคาเปิดได้เกือบทั้งวัน มีแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้นที่ราคาอ่อนตัวลงมา แต่ก็ไม่หลุด 61.25 บาท มิหนำซ้ำ ราคาหุ้นยังทะยานขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 72.25 บาท ในการซื้อขายภาคบ่าย ก่อนจะเจอแรงขายทำกำไรกดราคาหุ้นให้ปรับตัวลงมาและปิดตลาดที่ 69 บาท สูงกว่าราคาจอง 23 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย กว่า 9,159 ล้านบาท
การที่ราคาหุ้นในการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ยืนได้อย่างน่าประทับใจ ได้รับการอธิบายจากนายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมว่า น่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนมั่นใจในปัจจัยทางธุรกิจ และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จึงทำให้หุ้น MASTER ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
โอกาสนี้ นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงาม ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช “Masterpiece Hospital” กล่าวภายหลังขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในบริษัทฯ ว่า หลังจาก 9 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้วางรากฐาน พัฒนาระบบต่างๆ จนทำให้โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช กลายเป็นโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 บริษัทฯ พร้อมยกระดับโรงพยาบาลศัลยกรรมให้มีการเติบโต มีมาตรฐาน และผลลัพธ์ด้านความงามเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ และมีการเติบโตสูงสม่ำเสมอเหมือนช่วงก่อนเข้าระดมทุนในตลาด mai หลังจากได้สร้าง Trust ให้กับลูกค้า และคู่ค้าแล้ว ก้าวต่อไปพร้อมสร้าง Trust ให้กับนักลงทุนเช่นกัน
ส่วนนางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER และนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม พูดคล้ายๆ กันว่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และจากแผนการใช้เงิน IPO เพื่อขยายธุรกิจ รองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนี้ จะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด แข็งแกร่ง มั่นคง และก้าวสู่ผู้นำในธุรกิจด้านโรงพยาบาลศัลยกรรมเสริมความงามในระดับสากล ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพร้อมเดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ซึ่งหลังจากเข้าซื้อขายว้นแรกแล้ว นักลงทุนยังให้ความสนใจหุ้น MASTER อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคายืนเหนือ 68 บาทได้อย่างต่อเนื่อง และดีดตัวขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 77.75 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว