นักวิเคราะห์ ติง ราคาหุ้น GUNKUL ทรุดตัวเกินพื้นฐาน

5287 จำนวนผู้เข้าชม  | 

นักวิเคราะห์ ติง ราคาหุ้น GUNKUL ทรุดตัวเกินพื้นฐาน


ถึงแม้ บมจ. กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) และ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) จะออกมาประสานเสียงชี้แจงข่าวที่ปรากฏในมติชนออนไลน์ ซึ่งระบุว่า ศาลปกครอง จ. นครราชสีมา มีคำวินิจฉัยให้เพิกถอนการออกโฉนดที่ดินจำนวน 32 แปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ตั้งโครงการวายุวินด์ฟาร์ม ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซี่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ทั้ง 2 บริษัทฯ ร่วมลงทุนในสัดส่วน 50% เท่ากัน ว่า คำพิพากษาดังกล่าวยังไม่มีการบังคับ หรือปฏิบัติตามจนกว่าคดีนี้จะถึงที่สุด เพราะฉะนั้น โครงการยังคงประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ จึงไม่กระทบต่อการดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัทฯ แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทั้ง 2 บริษัทฯ ได้สอบทานความถูกต้องแล้วก่อนการเข้าซื้อที่ดิน และเชื่อมั่นว่าการออกโฉนดที่ดินทั้ง 32 แปลงดังกล่าวออกโดยชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงพร้อมใช้สิทธิต่อสู้ทางคดีและกระบวนต่างๆ จนถึงที่สุด เพื่อพิสูจน์ความสุจริตและความถูกต้องเป็นธรรมตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวกลับกดดันให้ราคาหุ้น GUNKUL ทรุดตัวในการซื้อขายวันเดียวเกือบ 14% โดยราคาหุ้นดิ่งทำจุดต่ำสุดในรอบวันที่ 4.04 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อดันราคาไต่ขี้นมาปิดที่ 4.22 บาท หรือทรุดตัว 11.3% เมื่อนักกลยุทธ์ และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายค่ายออกมาท้วงว่า ราคาหุ้นลดลงมากเกินไป เพราะโครงการวายุวินด์ฟาร์มมีกำลังการผลิตเพียง 60 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้ในกรณีแย่ที่สุด เท่ากับกำลังการผลิตจะหายไปเพียง 30 MW ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับที่โครงการที่บริษัทฯ เข้าประมูลรอบล่าสุดนี้ และถือว่าราคาตอบรับข่าวเชิงลบมากเกินไป

โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ระบุว่า หากมองในกรณีเลวร้ายที่สุด โครงการดังกล่าวมีผลต่อกำไรของ GUNKUL ปีละ 200 ล้านบาท คิดเป็น13% ของประมาณการกำไรปีนี้ ที่ 1.56 พันล้านบาท ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นเพียง 30 สตางค์ จากราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 5 บาท ดังนั้น หากราคาหุ้นปรับฐานแรง ถือเป็นโอกาสลงทุนที่ดี สำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว

ส่วนหยวนต้า (YUANTA) ชี้ว่า การที่ราคาหุ้นปรับฐานแรง คาดว่าเกิดจากการปรับพอร์ตเพื่อลด Leverage ของนักลงทุน พร้อมแนะนำ "ทยอยสะสม" เพราะ ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกเรื่องผลการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกรออยู่ในเดือนมีนาคม อีกทั้งตลาดรับรู้แล้วว่า ผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายจะไม่เด่น 

ขณะที่ยูโอบี เคย์เฮียน (UOBKH) ให้มุมมองเชิงกลยุทธ์ว่า สามารถเข้าซื้อเพื่่อเก็งกำไรได้ หากราคาหุ้น GUNKUL ต่ำกว่า 4.20 บาท โดยมีแนวต้านที่ 4.38 บาท และ 4.70 บาท ตามลำดับ

สำหรับ GULF กลับได้รับผลกระทบน้อยมาก โดยตลอดทั้งวัน ราคาหุ้นแกว่งในกรอบแคบๆ ระหว่าง 53.50 – 54.50 บาท เพราะกำลังการผลิตที่หายไป จะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทฯ และราคาหุ้นไม่มาก

โดยฟิลลิป (PLS) ประเมินผลกระทบในกรณีเลวร้ายที่สุด ว่า จะมีผลต่อกำไรของ GULF เพียงปีละ 100 ล้านบาท ส่งผลลบต่อมูลค่าพื้นฐานหุ้นเพียง 0.10 บาท อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น คาดว่าราคาหุ้นอาจถูกกดดันจากข่าวข้างต้น จึงแนะนำ "ทยอยซื้อ" โดยให้ราคาพื้นฐานปีนี้ที่ 57 บาท นับรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งหมดแล้ว

อินโนเวสท์ เอ็กซ์ (Innovest X) ตีมูลค่าจากโครงการวายุวินด์ฟาร์ม ว่า จะมีผลต่อราคาหุ้น GULF เพียง 0.43 บาท หรือ 0.7% ของราคาเป้ามายที่ 63 บาท ซึ่งหากราคาหุ้นปรับลดลงเกินกว่านี้ จะชี้ให้เห็นถึงการเทขายมากเกินไป เพราะโครงการวายุวินด์ฟาร์มยังสามารถสร้างกระแสเงินสดกลับเข้ายังบริษัทฯ ได้ นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง จากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ๆ ในโตรงการ IPP ที่จะทยอยเปิดดำเนินงานตลอด 5 ปีนี้ และรายได้จากโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามามากขึ้น ดังนั้น การอ่อนตัวของราคาหุ้นถือเป็นโอกาส ทยอยซื้อสะสม เพื่อลงทุนระยะยาว  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้