AIT ประกาศเป้ารายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท รับ The Next  Decade ก้าวแรกของทศวรรษที่ 4

บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) หนึ่งในผู้นำธุรกิจรับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจร รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมและค่าใช้จ่ายรวมลดลง 8.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเป็นการลดลงตามการลดลงของรายได้ เนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่ได้ถูกส่งมอบและรับรู้รายได้แล้วในไตรมาส 3 มีจำนวนสูงกว่า

แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) รายได้ไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้น 6.7% เนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งมอบมีจำนวนมากกว่า อย่างโครงการงานจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟ และจัดการงานขนส่งสินค้า ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โครงการซื้อขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ของ บมจ. เอสวีโอเอ (SVOA) โครงการสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์สารสนเทศ ของกรมที่ดิน โครงการซื้อขายระบบสำหรับขยายบริการ GDCC (VM) ของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) และโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางเชื่อมต่อบริการประกันสังคมให้แก่ผู้ประกันตนอย่างเจาะจง ของสำนักงานประกันสังคม

สำหรับภาพรวมผลดำเนินงานทั้งปี บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,727 ล้านบาท ลดลง 4.4% YoY แต่มีกำไรสุทธิ 542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% YoY สาเหตุจากอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการดีกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย ประกอบกับมีการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในต้นปี

โอกาสนี้ บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 20 เมษายนที่จะถึงนี้ ก่อนจ่ายเงินในวันที่ 9 พฤษภาคม ตามมา ส่งผลให้บริษัทฯ จ่ายปันผลสำหรับงวดบัญชีทั้งปี ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท

ขณะเดียวกัน นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริ หาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนงานปีนี้เพิ่มเติมว่า ตั้งเป้าหมายรายได้ 7,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้งานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ซึ่งตัวเลขวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งมาจากงานที่อยู่ในระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า อีก 150 ล้านบาท รวมถึงการขยายงานให้ได้ตามเป้าหมายก้าวแรกของทศวรรษที่ 4 "The Next  Decade" ที่กำหนดกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในคอนเซปต์ DECADE (D: Determined มีความมุ่งมั่น, E: Elaborated มีความละเอียดรอบคอบ, C: Connection มีเครือข่ายที่แข็งแรง, A: Ambitious มีความทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จ, D: Dare ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และ E: Expansion  มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง)

ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการเน้นขายที่มีลักษณะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า เช่น ให้คำปรึกษาร่วมกับการขายสินค้า (Consultancy Selling) มากกว่ามุ่งเน้นขายสินค้าในลักษณะซื้อมาขายไป รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เป็น Fully Automation  ผ่านการใช้เทคโนโลยีเพิ่มเติม และบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด        

สำหรับความคืบหน้าในการลงทุนธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงการปลูกป่าสักเชิงเศรษฐกิจ ประมาณ 1,000 ไร่ ล่าสุด บริษัทฯ สามารถจัดหาที่ดินเพื่อปลูกป่าเรียบร้อยแล้ว ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เพราะบริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญกับวิกฤตภาวะโลกร้อน ที่เป็นผลมาจากก๊าซเรือนกระจก แม้ว่าการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ จะไม่กระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้น และต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม