3753 จำนวนผู้เข้าชม |
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง พร้อมแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์ เพื่อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ภายในปีนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ปัจจุบัน MGI มีทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 75 ล้านบาท มีนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีสัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 60% และ 42.86% ตามลำดับ รองลงไปเป็นนายรัชพล จันทรทิม ที่มีสัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 39.99% และ 28.56% ตามลำดับ
ทั้งนี้ MGI ทำธุรกิจหลักบริหารจัดการการประกวดนางงาม "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" และ "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ที่มีจุดแข็งจากการเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ สามารถเข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ถือเป็นเวทีการประกวดแรกในประเทศไทยที่ดำเนินการจัดการในรูปแบบนี้ รวมทั้งมีเครือข่ายนางงามที่ส่งเข้าประกวดในระดับนานาชาติ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาสมากขึ้น ทั้งการบริหารจัดการศิลปิน และการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ถือเป็นการต่อยอดกลยุทธ์การขยายตลาดสร้างความยั่งยืน
ขณะเดียวกัน นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ชี้แจงเพิ่มว่า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการประกวดนางงามทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้เป็นเวทีที่มีผู้ติดตาม มีส่วนร่วม เกิดกระแสนิยมในวงกว้าง สามารถต่อยอดแบรนด์ของบริษัทฯ ไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกสายงาน เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ลูกค้าประทับใจที่สุด บริษัทฯ พร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำเงินทุนไปลงทุนซื้ออาคารสร้างสำนักงานใหม่ ควบคู่ไปกับการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง และพัฒนาขีดความสามารถของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนดำเนินกิจการ พร้อมหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ
สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) กลุ่มธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) กลุ่มธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent)
โดยกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ จะเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริมทั้งสินค้าที่เป็นแบรนด์บริษัทฯ เอง ได้แก่ Miss Grand MGI และ NangNgam รวมถึงสินค้าอื่นที่ไม่ได้เป็นแบรนด์ตัวเอง ได้แก่ กาแฟผสมถั่งเช่า คอลลาเจนไดเปปไทด์ วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงสินค้าบริโภค เช่น น้ำพริกกากหมู ปลาร้าทรงเครื่อง โดยมีสัดส่วนรายได้จากสินค้าแบรนด์ตัวเองสูงถึง 75%
ส่วนธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) จะครอบคลุมการจัดประกวดนางงามทั้งในและต่างประเทศ โดยเวทีในประเทศ จะเป็นการประกวดนางงามมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เพื่อค้นหาผู้หญิงไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสม เพื่อมาดำรงตำแหน่ง มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand หรือ MGT) โดยจะขายลิขสิทธิ์การประกวดนางงามระดับจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดในแต่ละปี ให้กับผู้ได้รับสิทธิ์การประกวดระดับจังหวัด (Provincial Director - PD) และ PD จะทำหน้าที่จัดประกวด เพื่อคัดเลือกนางงามมิสแกรนด์จังหวัดเข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ต่อไป หลังจากนั้น บริษัทฯ จะส่งผู้ชนะการประกวด MGT เข้าประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Grand International หรือ MGI) ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติต่อไป
ขณะที่ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) โดยตัวธุรกิจสื่อจะเกี่ยวข้องกับการซื้อมาจำหน่ายไปเวลาออกอากาศ (Airtime) รายการที่มีชื่อเสียงตามสื่อโทรทัศน์ ได้แก่ รายการทูเดย์โชว์ ครัวคุณต๋อย เพชรรามา สำหรับตัวธุรกิจบันเทิง จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับนางงามและศิลปินของบริษัทฯ เช่น การจัดคอนเสิร์ตอิงฟ้ามหาชน, MGT x ระเบียบวาทศิลป์, Meet & Greet และยังมีรายการบันเทิงในลักษณะการทำ Content เบื้องหลังงานกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ในลักษณะเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ โดยทีมงานที่เป็นพนักงานของบริษัทถ่ายทอดลงในช่อง Grand TV บน YouTube เพื่อสร้างความสนใจให้กับลูกค้า
ด้านธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) เป็นธุรกิจสืบเนื่องจากการประกวดนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยบริษัทจะทำสัญญากับผู้ชนะการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ผู้ได้อันดับรองลงมาในการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และผู้ชนะ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นศิลปินในสังกัดของบริษัทฯ เพื่อปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากงานที่บริษัทฯ จัดหามาให้ อย่างงานรีวิวสินค้า งานพิธีกร งานโชว์ตัว งานเดินแบบ งานแสดงภาพยนตร์
สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลังช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-65) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 44.81 ล้านบาท 29.01 ล้านบาท และ 47.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 338.80 ล้านบาท 345.10 ล้านบาท และ 319.86 ล้านบาท ตามลำดับ โดยความผันผวนของรายได้เกิดจากธุรกิจพาณิชย์เป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ MGI สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานได้ไม่ต่ำกว่า 38% มาโดยตลอด
ขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 83.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.66 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 96.80% และ 112.78% ตามลำดับ