EURO CREATIONS ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 78 ล้านหุ้น ขึ้นผู้นำธุรกิจ Luxurious & High Quality Living 

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 78 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ภายในปีนี้

ทั้งนี้ EURO เป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์สำหรับการตกแต่ง และอุปกรณ์ฟิตเนส อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่ (Luxurious & High Quality Living) อย่าง Technogym, Molteni&C, Natuzzi Italia, Giorgetti, Calligaris, Cassina, Christopher Guy, GalottI & Radice, Malerba และ Frette ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่ยอมรับของลูกค้ามีระดับทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ ผลิตภัณท์สำหรับห้องน้ำ โคมไฟและอุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ วัสดุปูพื้น ที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัย จึงสามารถนำเสนอสินค้าตลอดเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) ไล่ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ไปจนถึงการให้บริการหลังการขาย สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้ทุกขั้นตอนของการตกแต่ง พร้อมทั้งช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโชว์รูม 5 แห่ง ประกอบด้วย Euro Creations Flagship Gallery at Thonglor (พื้นที่ขาย 3,759 ตารางเมตร) Euro Creations Gallery at Crystal Design Center (พื้นที่ขาย 1,102 ตารางเมตร)  Technogym Flagship Showroom at Ekamai (พื้นที่ขาย 598 ตารางเมตร) Technogym Showroom at Central Embassy (พื้นที่ขาย 239 ตารางเมตร) และ Natuzzi Italia at Siam Paragon (พื้นที่ขาย 177 ตารางเมตร) และบริษัทฯ มีแผนจะขยายโชว์รูมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดบนทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อขยายบริการและฐานลูกค้าให้มากขึ้น  

ซึ่งตามแผนงาน EURO เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุน มาใช้ลงทุนเปิดโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่ง คือ Euro Gallery at Thonglor Soi 5 และ Euro Creations Flagship Gallery at Phuket กำหนดเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 2 ปีหน้า และ Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 1 ที่ตั้งเป้าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาสสุดท้ายปี 2569 และอาจมีการขยายโชว์รูมเพิ่มเติมอีกในอนาคต เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ด้านนายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO ชี้แจงเพิ่มว่า ด้วยอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ชื่อเสียงของแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จัก และดีไซน์ที่โดดเด่น ทำให้สินค้าแบรนด์ชั้นนำภายใต้การนำเข้าและจำหน่ายโดยบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจเอกชนที่เป็นผู้พัฒนาโครงการระดับลักซัวรี่ นำไปใช้ในโครงการต่างๆ อาทิ มัลเบอร์รี โกรฟ, เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า โครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ รวมถึงลูกค้ารายย่อยในเซ็กเมนต์ลักซัวรี่ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยที่ผสานเข้ากับเอกลักษณ์ของผู้ใช้และความงดงามของศิลปะ อีกทั้งบริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ Luxurious & High Quality Living มายาวนานกว่า 25 ปี ทำให้มีความเข้าในลูกค้าได้อย่างถ่องแท้ สามารถประเมินโอกาสทางธุรกิจ และยกระดับการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านรายได้และกำไร

โดยผลดำเนินงานย้อนหลังช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-65) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตต่อเนื่อง จาก 776.59 ล้านบาท ในปี 2563 เพิ่มเป็น 829.49 ล้านบาท ในปี 2564 และ 1,047.91 ล้านบาท ในปี 2565 ขณะที่กำไรสุทธิเร่งตัวจาก 105.49 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 121.66 ล้านบาท ในปี 2564 และ 135.91 ล้านบาท ในปี 2565 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน สามารถบริหารให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 44% และ 15% ตามลำดับ  

ขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 324.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 60.78 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 55.07% และ 128.62% ตามลำดับ