4056 จำนวนผู้เข้าชม |
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ครอบคลุมทั้งบริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก รวมถึงบริการให้เช่าคลังสินค้า บริการด้านพิธีการศุลกากร และบริการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันจากการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก (End-to-End Global Logistics)
สำหรับจุดแข็งของ SINO อยู่ที่การเป็นผู้นำให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล (Sea Freight) ครอบคลุมทั้งเส้นทางไทย-โซนอเมริกาเหนือ เส้นทางไทย-เอเชีย และเส้นทางไทย-ยุโรป ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกและนำเข้าสินค้าหลักของการค้าโลก โดยมีเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นตัวแทนของบริษัทฯ ในต่างประเทศ มากกว่า 165 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งบริษัทเดินเรือ สายการบิน และตัวแทนการจัดการขนส่งในประเทศต่างๆ รวมถึงมี OTI License (Ocean Transport Intermediary) จาก Federal Maritime Commission (FMC) และได้วางหลักประกัน FMC Bond จึงสามารถทำสัญญาการบริการกับสายเดินเรือในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศแถบโซนอเมริกาเหนือได้ด้วยตนเอง ทำให้มีแต้มต่อเหนือคู่แข่ง จึงสามารถนำเสนอโซลูชันการให้บริการขนส่งสินค้า ทั้งในรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้ (Full Container Load: FCL) และแบบไม่เต็มตู้ (Less Than Container Load: LCL) ตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งระบบ WMS เพื่อใช้บริหารจัดการคลังสินค้า การพัฒนางานขนส่ง ISO Tank ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุของเหลวเพื่อเพิ่มความหลากหลายการให้บริการตู้คอนเทนเนอร์ การนำระบบ GPS เพื่อใช้ติดตามตำแหน่งรถในขณะปฏิบัติงาน รวมถึงบันทึกและควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้มีความเหมาะสม เพื่อให้สามารถบริการได้อย่างมีคุณภาพ สามารถส่งมอบสินค้าได้อย่างปลอดภัย และตรงตามระยะเวลาที่กำหนด
จุดแข็งด้าน Sea Freight และคุณภาพในการให้บริการ ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ในเส้นทางขนส่ งไปทางทวีปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง หรือเอเชีย ส่งผลให้ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีล่าสุด (ปี 2563-35) บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ขยายตัวจาก 833.57 ล้านบาท เป็น 4,683.41 ล้านบาท และ 5,906.53 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเร่งตัวจาก 23.35 ล้านบาท ขึ้นมาเป็น 319.03 ล้านบาท และ 691.24 ล้านบาท ตามลำดับ
ในเบื้องต้น SINO มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 292 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 28.08% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยเตรียมจัดกิจกรรมนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางธุรกิจ และกลยุทธ์ การดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต ในวันจันทร์ที่ 4 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30-12.00 น. ที่ห้องประชุม 603 ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook Page Wealthy Thai ด้วย