4513 จำนวนผู้เข้าชม |
นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย (UOBKH) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. ไทย โคโคนัท (COCOCO) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 370 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 5.50 บาท จากราคาพาร์หุ้นละ 50 สตางค์ ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายนนี้ ผ่านบริษัทฯ บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญอีก 5 ราย ประกอบด้วย บมจ. หลักทรัพย์ พาย (Pi) บมจ. หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHS) บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย (PLS) และ บมจ. หลักทรัพย์ ไอร่า (AIRA) คาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 14 กันยายนนี้
ด้านนางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นร่วม บอกว่า การกำหนดราคา IPO ที่ 5.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ 22 เท่า เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์สุขภาพซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก อีกทั้งยังมีจุดเด่นเรื่องความไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดความสำเร็จสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต พิสูจน์ได้จากผลดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่า COCOCO จะเป็นหุ้นที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ในเรื่องนี้ นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ COCOCO กล่าวเสริมถึงภาพรวมผลดำเนินงานช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2563-65) ว่า มีการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง จาก 69.46 ล้านบาท เพิ่มเป็น 241.88 ล้านบาท และ 302.22 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 2.29%, 6.95% และ 8.94% ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ สามารถสร้างรายได้จากการขายและบริการได้ทั้งิสิ้น 1,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 103.39% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 130.99 ล้านบาท สาเหตุหลักยอดขายน้ำมะพร้าวไปประเทศจีนสูงขึ้น ประกอบกับผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าสินค้าประเภทกะทิ
ขณะที่ ดร. วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COCOCO เปิดเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า เกิดจากบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และก้าวไปข้างหน้าบนเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับประเทศ ผ่านผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวในรูปแบบต่างๆ ภายใต้แบรนด์ Thaicoco อย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล เพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในองค์กร คู่ค้า ผู้บริโภค หรือผู้ถือหุ้น COCOCO
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวจากปีละประมาณ 110,000 ตัน เพิ่มเป็นเท่าตัว ราวปีละ 218,000 ตัน รวมถึงขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ ยังจะนำไปลงทุนซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว รวมถึงซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในไอศกรีม ช่วยต่อยอดการเติบโตในระยะต่อไปให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และก้าวเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โอกาสนี้ นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ (Fin+) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ปิดท้ายว่า COCOCO มีจุดแข็งเรื่องศักยภาพการเติบโต จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม การมีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั่วโลก มีการบริหารความเสี่ยง และการจัดการต้นทุนที่ดี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจ และพร้อมร่วมเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จไปพร้อมกับบริษัทฯ