WHA เปิดกลยุทธ์ติดอาวุธ 4 กลุ่มธุรกิจ พิชิตเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ WE SHAPE THE FUTURE

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยกลยุทธ์การทำธุรกิจในครึ่งหลังปีนี้ว่า พร้อมยึดพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ของกลุ่มบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับนักลงทุนและอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันให้ไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนทั่วโลก เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ทั้งนี้ แนวคิด WHA: WE SHAPE THE FUTURE ต่อยอดจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ใช้แนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนมายาวนาน นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ โดยวางแนวทางการพัฒนาที่ยึดหลักบรรษัทภิบาล การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลภายในองค์กร (Digital Transformation) และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กร ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในระยะยาว

ขณะเดียวกัน กลุ่ม WHA ยังคงเดินหน้าภารกิจ "Mission To The Sun" เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ มุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปีหน้า ซึ่งล่าสุด มี 3 โครงการที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม ได้แก่ โครงการ Green Logistics, Digital Health Tech และ Circular จากทั้งหมด 9 โครงการ

โดยโครงการ Green Logistics เป็นการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้กับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า การใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นศูนย์กลางในการควบคุมการดำเนินงานของยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ในระยะยาว

ส่วนโครงการ Digital Health Tech มุ่งหวังยกระดับการเข้าถึงบริการและโซลูชันการดูแลสุขภาพ ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit ซึ่งเป็นเครื่องมือดูแลด้านสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้สมัครใช้บริการ สามารถจัดการสุขภาพแบบองค์รวมได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพย้อนหลังได้ทุกที่ทุกเวลา หรือการปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ผ่านระบบวิดีโอคอล ภายใต้การผนึกกำลังกับพันธมิตร อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช นำเสนอบริการต่าง ๆ

สำหรับโครงการ Circular เป็นการรวบรวมไอเดียจากแต่กลุ่มธุรกิจที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบนิเวศของบริษัทฯ แล้วยังเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน หรืออาจเกิดเป็นธุรกิจใหม่ได้ อย่างการจัดการขยะอุตสาหกรรมของโรงงานหนึ่ง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของโรงงานอื่น หรือเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม

สำหรับผลดำเนินงานของ WHA ในครึ่งแรกปีนี้มีความโดดเด่นอย่างมาก โดยมีรายได้และส่วนแบ่งกำไร กว่า 5,600 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และ 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากกระแสย้ายฐานการผลิต ผลักดันให้ผลประกอบการดีเกินความคาดหมาย ส่งผลให้บริษัทฯ ปรับเป้ายอดขายที่ดินรวมทั้งในไทยและเวียดนาม เพิ่มจาก 1,750 ไร่ ที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี เป็น 2,750 ไร่

ประการสำคัญ กลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมใน 2 ประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ ให้สอดคล้องกับการต่อยอดโครงการอุตสาหกรรมมูลค่าสูง อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน WHA มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งในไทยและเวียดนามทั้งหมด 13 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวม 71,300 ไร่ และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 1 แห่ง และส่วนขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่งในไทย รวมพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 5,700 ไร่ สำหรับในเวียดนาม พร้อมเร่งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหงะอาน เฟส 2 พื้นที่รวมกว่า 2,215 ไร่ ให้ทันกับความต้องการของลูกค้า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 2 แห่งอยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตลงทุน

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งขยายการเติบโตให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในประเทศ และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในเวียดนาม มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรมที่เป็น New S-curve ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการสร้างพันธมิตรในระยะยาว พร้อมกับนำนวัตกรรมทางด้านดิจิทัลและแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนเข้ามาใช้ทั้งระบบ โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้ จะมีการลงนามสัญญาเช่าโครงการใหม่รวม 200,000 ตารางเมตร และมีสินทรัพย์ภายใต้กรรมสิทธิ์และการบริหารรวมทั้งสิ้น 2.9 ล้านตารางเมตร

ในส่วน Office Solutions บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายโครงการอาคารสำนักงานบนทำเลที่ดีเยี่ยมในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 5 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 120,000 ตารางเมตร และเริ่มขยายสู่โครงการพาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ อย่างไลฟ์สไตล์รีเทลสเปซ พื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ใกล้สถานีบีทีเอสสุรศักดิ์ ถนนสาทร ที่พร้อมเปิดช่วงต้นปีหน้า และโครงการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางย่านสาทร พื้นที่กว่า 6,900 ตารางเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

ขณะที่ธุรกิจสาธารณูปโภค ตั้งเป้าเติบโตไปพร้อมกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม โดยธุรกิจน้ำ กำลังก่อสร้างโรงผลิตน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และบำบัดน้ำ 1.9  ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้

ขณะเดียวกัน พร้อมเดินหน้าเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม รวมถึงหาโอกาสขยายตลาดสู่ลูกค้าภายนอกนิคม ซึ่งล่าสุด ได้มีการลงนามสัญญาการซื้อขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ให้กับลูกค้า 2 รายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 เพิ่ม 4.6 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ยอดจำหน่ายน้ำรวมทุกประเภท ทั้งในไทยและเวียดนาม ทำได้ 168 ล้านลูกบาศก์เมตร 

ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ตั้งเป้าหมายปีนี้ มีการเซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ให้ได้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 192 เมกะวัตต์ โดยมีเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 847 เมกะวัตต์ และพร้อมหาโอกาสใหม่ๆ จากระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ ไฮโดรเจนสีเขียว การซื้อขายคาร์บอนเครดิต และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน เพื่อสร้าง New S-Curve

ขณะที่ธุรกิจดิจิทัล เดินหน้าโครงการการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลภายในองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนทั้งกลุ่ม WHA ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง และมุ่งสร้างพันธมิตรใหม่ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยี เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม อาทิ แดชบอร์ดแสดงผลการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของแผง รวมไปถึงเครื่องมือวิเคราะห์ ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบจัดส่งน้ำ รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit