ผู้บริหาร WINDOW พร้อมพิสูจน์ผลงาน แม้ราคาหุ้นดิ่ง 39.5% ทำสถิติหุ้นน้องใหม่ที่บอบช้ำสุดในรอบ 2 ปี

การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. วินโดว์ เอเชีย (WINDOW) สร้างรอยยิ้มให้กับนักลงทุนได้ไม่นาน ทั้งที่บรรยากาศการลงทุนสดใส เมื่อคนที่ได้หุ้นจอง และขายช้าจะกำไรหด ขณะที่นักเก็งกำไรรายวันบาดเจ็บไปตามๆ กัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 2.84 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 2.10 บาท ถึง 0.74 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 35.24% และแตะจุดสูงสุดที่ 2.86 บาท จากนั้น ราคาหุ้นค่อยๆ ปรับฐานลงเป็นลำดับ กระทั่งทำจุดต่ำสุดในครึ่งวันเช้าที่ 1.45 บาท ต่ำจอง 30.95% ก่อนจะทรุดตัวต่อเนื่องในภาคบ่าย เมื่อดัชนีตลาดย่อตัวลงมา โดยราคาหุ้นดิ่งตัวแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 1.18 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อกลับ ดันราคาปิดขึ้นมาที่ 1.27 บาท ต่ำจอง 0.83 บาท คิดเป็นผลขาดทุน 39.52% สร้างสถิติหุ้นน้องใหม่ที่ติดลบมากที่สุดในการซื้อขายวันแรกในรอบ 2 ปี ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 1,597 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แรงขายที่หนาแน่นเกิดจากการเทขายหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร ที่ไม่ติด silent period จำนวน 53.259 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหรือไม่ เพราะทางผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมใจกัน lock up หุ้น รวมถึงมีการตั้งคำถามถึงบทบาทของผู้รับประกันการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นตามมาด้วย หลังราคาหุ้นมีแต่ทรงกับทรุด 

แต่ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร นายธนินทร์ รัตนศิริวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WINDOW ยืนยันว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ จากการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และมาตรฐานต่างๆ ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักของสาธารณชนมากขึ้น เพิ่มโอกาสการเข้าไปรับงานโครงการภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาครัฐมากขึ้น รวมถึงยกระดับความเข้มแข็งของฐานะทางการเงิน และมีเงินทุนรองรับแผนขยายการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยสร้างโอกาสในการสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับกลยุทธ์ในการผลักดันความสำเร็จ บริษัทฯ พร้อมยกระดับการเติบโตจากภายใน (Organic Growth) ด้วยการวางแผนสต๊อกสินค้าพร้อมขายในปริมาณที่เพียงพอต่อการสั่งซื้อทุกช่องทางจำหน่าย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที พร้อมพัฒนาคุณภาพของพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานให้คำแนะนำสินค้า หรือ PC ให้มีความเข้าใจผลิตภัณฑ์ สามารถให้ข้อมูล พร้อมนำเสนอการใช้งานสินค้าทดลองในจุดแสดงสินค้าตามร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่มีพื้นที่ เพิ่มความเชื่อมั่นและช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการให้บริการหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจให้เกิดการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซ้ำ

ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) บริษัทฯ พร้อมมองหาโอกาสขยายธุรกิจ ด้วยการร่วมลงทุน หรือซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจ ขยายตลาด และลดจำนวนคู่แข่ง ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด หรือขยายขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลสำเร็จ ภายใน 3 ปีข้างหน้า  

สำหรับภาพระยะสั้นปีนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะสามารถผลักดันรายได้เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ต่อเนื่องจากที่ทำมาได้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-65) ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มจาก 747.50 ล้านบาท เป็น 835.51 ล้านบาท และ 913.35 ล้านบาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนดูเหมือนจะไม่ตอบรับกับข่าวมากนัก เมื่อราคาหุ้น WINDOW ในการซื้อขายอีก 2 วันทำการถัดมา แกว่งแคบๆ ในกรอบ 1.20-1.35 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่บางเบา