CHG มั่นใจ ผลงานทั้งปีโต 20% แตะ 8 พันล้านบาท หลัง 9 เดือนรายได้แตะ 5.6 พันล้านบาท

บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 325.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ 5.81% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ตามรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 16.36% QoQ มาอยู่ที่ 2,092.8 ล้านบาท ทั้งรายได้ที่เกิดจากกลุ่มผู้ป่วยใน (IPD) รายได้จากโครงการประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ประกันตน และอัตราการจ่ายสำหรับค่าเหมาหัว ซี่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เสริมด้วยรายได้จากการรับจ้างบริหารงานให้กับโรงพยาบาลรัฐ

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 5,607.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 772.2 ล้านบาท  

แพทย์หญิง ชุติมา ปิ่นเจริญ รองประธานกรรมการบริหาร ชี้แจงว่า การที่รายได้เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เกิดจากกลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่ รวมถึงการซื้อกิจการดูแลผู้สูงอายุจากปลายไตรมาส 2 ตลอดจนการขยายการให้บริการ และเพิ่มศักยภาพการรักษาของสถานพยาบาลเดิม ส่งผลให้สามารถให้บริการผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ เมื่อเปรียบเทียบผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ กับไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด พบว่า ผลดำเนินงานกลับมาเติบโตสูงขึ้น โดยรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล เติบโต 46% ทั้งในส่วนรายได้จากผู้ป่วยทั่วไป ที่เติบโต 62% และรายได้จากโครงการประกันสังคม ซึ่งเติบโต 32% ส่งผลให้งวด 9 เดือนปีนี้ เติบโตดีขึ้นกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด โดยรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล เติบโต 46% ทั้งในส่วนรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปที่เติบโต 56%  และรายได้โครงการประกันสังคมซึ่งเติบโต 45%  

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ยังคงมีทิศทางที่สดใส ทั้งจากการรับรู้รายได้โครงการประกันสังคม การเปิดให้บริการโรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอด อินเตอร์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่มีจุดแข็งในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบครบวงจรแห่งแรกในอำเภอแม่สอด และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเปิดให้บริการเฟสแรก จำนวน 59 เตียง จากทั้งหมด 100 เตียง และการเปิดให้บริการศูนย์การแพทย์ Chularat Medical Center ที่ครอบคลุมทั้งศูนย์มะเร็งครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ศูนย์รักษาแผลเรื้อรัง ศูนย์บำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ครบวงจรมากขึ้น ผลักดันให้รายได้รวมทั้งปีเติบโต 20% จากปีก่อน แตะ 8,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต