5210 จำนวนผู้เข้าชม |
นายธวัทชัย แพร่แสงเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล (ASL) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ บมจ. มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.57% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 4.95 บาท จากราคาพาร์ 50 สตางค์ ระหว่างวันที่ 4, 6 - 7 ธันวาคมนี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) และ บมจ. หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด (KFS) คาดว่า จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันที่ 14 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ การตั้งราคา IPO ที่ 4.95 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 11.76 เท่า เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีก่อน ถึงวันที่ 30 กันยายนปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าราคาเทียบเคียงกับบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกัน 4 บริษัท คือ บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) ที่ 37.25 เท่า บมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) ที่ 35.90 เท่า บมจ. คาร์มาร์ท (KAMART) ที่ 24.42 เท่า ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนย้อนหลัง นับจากวันที่ 4 พฤศจิกายนปีก่อน ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายนปีนี้ ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และจุดเด่นในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพาณิชย์จากการจัดประกวดนางงาม "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" และ "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" รวมถึงการบริหารจัดการศิลปิน และการจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ทั้งแบรนด์ตัวเอง เช่น Miss Grand NangNgam MGI และแบรนด์สินค้าอื่นๆ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากว่า 10 ปี
ด้านนายวรเทพ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ (Finnex) ที่ปรึกษาทางการเงิน เสริมว่า MGI มีจุดเด่นเรื่องแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ดูได้จากจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการเป็นเวทีประกวดนางงามรายแรกที่สามารถเข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีเครือข่ายส่งนางงามเข้าประกวดระดับนานาชาติ ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การที่บริษัทมีเงินสดในมือจำนวนมาก มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียงประมาณ 0.8 เท่า หนี้สินส่วนใหญ่คือเจ้าหนี้การค้า ส่วนอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ต่ำมาก เพียง 0.01 เท่า ถือเป็น Cash cow business ซึ่งเข้าข่ายหุ้นเติบโตสูง (Growth stock)
สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาด mai ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผ่านการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 284 ล้านบาท ไปใช้ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 20 ล้านบาท และลงทุนอาคารสำนักงานใหม่ 40 ล้านบาท ที่เหลือ 174 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ขณะที่นายณวัฒน์ อิสรไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ชี้แจงว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด จะช่วยให้เป้าหมายในการยกระดับอุตสาหกรรมการประกวดนางงามทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้เป็นเวทีนางงามที่ได้รับกระแสนิยมมากที่สุด ภายใต้คำขวัญขององค์กร "นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์" เพื่อให้มีคนติดตามและมีส่วนร่วมในประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยต่อยอดแบรนด์ไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกสายงาน เกิดขึ้นได้อย่างที่มุ่งหวังไว้
ปัจจุบัน MGI ทำธุรกิจ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) เน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม โดยมีสัดส่วนรายได้จากแบรนด์ตัวเอง 75% และแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของบริษัทฯ ในสัดส่วน 25%
กลุ่มที่สอง ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) ทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทเป็นผู้ดำเนินการจัดประกวดนางงามในประเทศ โดยมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์การประกวดนางงามระดับจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด ในแต่ละปีให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ประกวดระดับจังหวัด ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์จะทำหน้าที่จัดประกวด เพื่อคัดเลือกนางงามที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสม มาดำรงตำแหน่ง มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ หลังจากนั้น บริษัทฯ จะส่งผู้ชนะการประกวดระดับประเทศ เข้าประกวดในเวทีระดับนานาชาติต่อไป
กลุ่มที่สาม ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) โดยธุรกิจสื่อ จะเป็นการซื้อเวลา และขายเวลาออกอากาศ (Airtime) รายการที่มีชื่อเสียงตามสื่อโทรทัศน์ ได้แก่ รายการทูเดย์โชว์ ครัวคุณต๋อย เพชรรามา ส่วนธุรกิจบันเทิง เป็นธุรกิจจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับนางงามและศิลปินของบริษัทฯ เช่น การจัดคอนเสิร์ตอิงฟ้ามหาชน Meet & Greet อีกทั้งยังมีรายการบันเทิงในลักษณะการทำ Content เบื้องหลังงานกิจกรรมต่างๆ ในลักษณะเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ ถ่ายทอดลงในช่อง Grand TV และบน YouTube เพื่อสร้างความสนใจให้กับลูกค้า
และกลุ่มสุดท้าย ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) เป็นธุรกิจสืบเนื่องจากการประกวดนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยบริษัทจะทำสัญญากับผู้ชนะการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ผู้ได้อันดับรองลงมาในการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และผู้ชนะมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นศิลปินในสังกัดของบริษัทฯ เพื่อปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายตามที่บริษัทฯ จัดหางานมาให้ ไม่ว่าจะเป็นงานรีวิวสินค้า งานพิธีกร งานโชว์ตัว งานเดินแบบ หรืองานแสดงภาพยนตร์
สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลัง ในปีที่ผ่านมา MGI มีรายได้รวม 319.86 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.85 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ สามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้ 432.45 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 77.13 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปีแล้ว โดยการเติบโตของรายได้มาจากทุกกลุ่มธุรกิจ นำโดยธุรกิจพาณิชย์ ด้วยสัดส่วนรายได้ 41% รองลงไปเป็นธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19% และธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 13% ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ 4% ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ขึ้นเป็น 60% ที่เหลือ 40% มาจากธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน รวมกัน
และเพื่อความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการบริหาร ทั้งนายณวัฒน์ และนายรัชพล จันทรทิม ได้ทำข้อตกลงด้วยว่า จะไม่ขายหุ้นที่ถือรวมกันเกือบ 34.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 16.43% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด เป็นระยะเวลา 1 เดือนนับจากวันที่หุ้นทำการซื้อขายในตลาด mai เป็นต้นไป