SISB อีกตัวเลือกสำหรับคนชอบหุ้นเติบโต แกร่งและมั่นคง

4828 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SISB อีกตัวเลือกสำหรับคนชอบหุ้นเติบโต แกร่งและมั่นคง


หลังจากผู้บริหาร บมจ. เอสไอเอสบี (SISB) นำโดยนายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกมาให้ข้อมูลภาพรวมธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 2556 ต่อเนื่องปี 2567 สรุปได้ว่า ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 เติบโตจากปี 2566 ราว 30% หลังจากจำนวนนักเรียนสิ้นปี 2566 เพิ่มจาก 4,125 คน ในไตรมาส 3 เป็น 4,200 คน หลักๆ มาจากการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ที่นนทบุรี และระยอง ซึ่งมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ 262 คน และ 96 คน เป็น 280 คน และ 107 คน ตามลำดับ ส่วนในปี 2567 ยังคงเป้าจำนวนนักเรียนเพิ่มเป็น 4,600 คน พร้อมกับคงแผนปรับขึ้นค่าเล่าเรียน ในกรอบ 3-5% ตามเดิม

สำหรับแผนขยายจำนวนที่นั่งในโรงเรียน 3 สาขาเดิม ตั้งเป้าไว้ราว 1,350 ที่นั่ง แบ่งเป็นที่สาขาเชียงใหม่ 300 ที่นั่ง ในไตรมาสแรกปี 2567 ต่อด้วยสาขาประชาอุทิศ จำนวน 150 ที่นั่ง ช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 และสาขาธนบุรี จำนวน 900 ที่นั่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งจะรองรับนักเรียนได้รวมทั้งสิ้น 8,065 คน

แผนงานต่างๆ เหล่านี้ ถูกนักวิเคราะห์ 3 ค่าย จากเคจีไอ (KGI) กสิกรไทย (KS) และดาโอ (DAOL) ตีความตรงกันว่า  จะมีส่วนช่วยให้ SISB กลับมาโชว์กำไรอย่างโดดเด่นอีกครั้ง ขับเคลื่อนจากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น และความสามารถปรับขึ้นค่าเล่าเรียน ในกรอบ 3-5% อย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้กำไรงวดไตรมาสสุดท้ายปี 2566 ทำสถิติสูงสุดใหม่ ที่ 185-197 ล้านบาท และหนุนให้กำไรรวมทั้งปีเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อน โดย KGI คาดกำไรสุทธิทั้งปีที่ 633 ล้านบาท (+71.4% YoY) ส่วน KS คาดการณ์ที่ 654 ล้านบาท (+77.2% YoY) ขณะที่ DAOL ประเมินไว้ 673 ล้านบาท (+84% YoY) ก่อนเติบโตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อในปีหน้า ผลักดันจากจํานวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นเป็น 4,600 คน จากสาขาใหม่ และแผนทยอยขยายจำนวนที่นั่งในโรงเรียน 3 สาขาเดิม ที่ประชาอุทิศ ธนบุรี และเชียงใหม่ รวมถึงรายได้ค่าเล่าเรียนที่สูงขึ้น การควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง หนุนให้อัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดย KGI คาดกำไรสุทธิทั้งปีที่ 833 ล้านบาท (+33.6% YoY) ขณะที่ KS กับ DAOL ประเมินไว้ที่ 855 ล้านบาท (+36.2% YoY) และ 926 ล้านบาท (+46.3% YoY) ตามลำดับ คิดเป็นราคาเหมาะสมที่ 39.26-41 บาท

ที่สำคัญ กระแสส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติอาจเร่งตัวได้มากขึ้นอีก หลังผลทดสอบ PISA ของนักเรียนไทยล่าสุด ออกมาต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ตอกย้ำให้เห็นว่าโรงเรียนนานาชาติสามารถส่งเสริมเส้นทางอาชีพได้ดีกว่าโรงเรียนเอกชนทั่วไป อีกทั้งการยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างไทยและจีน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นนักเรียนจีนเข้ามาศึกษาเพิ่มขึ้น เพราะ SISB เป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติไม่กี่แห่งที่มีภาษาจีนร่วมในหลักสูตรหลักด้วย ช่วยต่อยอดการเติบโตของ SISB ในระยะยาวตามมาอีก ซึ่งปัจจัยใหม่นี้อาจเพิ่ม upside ให้ราคาหุ้นตามมา หากได้รับกระแสตอบรับจากผู้ปกครองมากจนทำให้จำนวนนักเรียนเติบโตเร็วและแรง

อย่างไรก็ตาม หากมองภาพแบบระมัดระวัง ความสามารถในการทำกำไรของ SISB ช่วง 2-3 ปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นอีกตัวเลือกสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการมีหุ้นเติบโตมั่นคง เข้าข่ายหุ้นปลอดภัย เก็บไว้ติดพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดผันผวนที่อาจเกิดในครึ่งปีแรก  

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้