KBANK กันสำรองเพิ่ม 5 หมื่นล้านบาท ลดเสี่ยงปีมังกร แม้กำไรปี 2566 จะโต 18.55%

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยผลดำเนินงานปี 2566 ว่า มีกำไรสุทธิ 42,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.55% จากปีก่อนหน้า ตามรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 19,396 ล้านบาท หรือ 11.19% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 148,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.61% หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.66% แม้ว่าการเติบโตของเงินให้สินเชื่อจะชะลอตัวเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า สาเหตุจากธนาคารมุ่งเน้นการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ โดยยึดหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งรองรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจโลก และเพื่อดูแลช่วยเหลือเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้ลูกค้า เพิ่มความความยืดหยุ่นในการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ ด้วยการกันสำรองเพิ่ม 51,840 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ยืนระดับสูงต่อเนื่องที่ 152.23% 

สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 3,950 ล้านบาท หรือ 9.81% ส่วนใหญ่เกิดจากการบริหารจัดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และรายได้จากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณธุรกิจ สอดคล้องกับการฟื้นตัวบางส่วนของภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง 1,702 ล้านบาท หรือ 5.17% หลักๆ จากค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมรับจากการโอนเงิน และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ลดลงตามสภาวะตลาด   

ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) คงที่ที่ 3.19% ของสินเชื่อรวม ขณะที่ฐานะเงินกองทุนยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ 19.41% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด แบ่งเป็นอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ที่ 17.44% และ 1.97% ตามลำดับ  

สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปี (ปี 2567-69) ธนาคารพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่าน "ยุทธศาสตร์ 3+1" เน้นสร้างการเติบโตจาก 3 ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ การยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ การขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียม และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่างๆ ของธนาคาร เพื่อส่งมอบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินยุทธศาสตร์ +1 เพื่อสร้างรายได้ใหม่ ในระยะกลางและระยะยาว ผ่านบริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ (KIV) การขยายธุรกิจในภูมิภาค และนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าบริการทางการเงิน โดยตั้งเป้ายุทธศาสตร์ +1 มีสัดส่วนประมาณ 5% ของกำไรสุทธิของธนาคาร ภายในปี 2571

สำหรับเป้าหมายปี 2569 KBANK ตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนรวมภายใต้การจัดการ (AUM) ของ บลจ. กสิกรไทย (KAsset) เติบโตประมาณ 30-40% ส่วนจำนวนผู้ใช้งาน K PLUS เติบโตประมาณ 20-30% พร้อมรักษาความเป็นผู้นำการให้บริการช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเป้าหมายการเติบโตปี 2567 นี้ KBANK วางกรอบการเติบโตของสินเชื่อในระดับ 3-5% โดยตั้งเป้าสินเชื่อบรรษัทธุรกิจโต 2-4% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี โต 1-2% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลโต 1-2% พร้อมควบคุม NIM ให้ได้ 3.66% เท่าปีที่แล้ว พร้อมกับผลักดันรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการให้ขยายตัว และบริหารต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit cost) ให้อยู่ในกรอบ 175-195% เพื่อควบคุม NPL ให้ต่ำกว่า 3.25%