NAT เคาะราคา IPO หุ้นละ 5.40 บาท เปิดจอง 8-12 ก.พ.นี้ ก่อนดีเดย์ซื้อขายวันแรกในตลาด mai 15 ก.พ. นี้

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ. แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ (NAT) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 92 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 5.40 บาท จากราคาพาร์ 50 สตางค์ ระหว่างวันที่ 8 – 9 และ 12 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญอีก 4 ราย คือ บมจ. หลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASPS) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) คาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ประเดิมการเป็นหุ้น IPO ตัวแรกของปี 2567 ในตลาด mai  

ทั้งนี้ การตั้งราคา IPO ที่ 5.40 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 12.56 เท่า เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และสภาวะตลาดปัจจุบัน อีกทีั้งการตั้งราคายังให้ส่วนลด (Discount) กับนักลงทุน โดยมีราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจใกล้เคียง ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนย้อนหลัง อาทิ บมจ. เอ็มเอฟอีซี (MFEC) บมจ. เอสวีโอเอ (SVOA) บมจ. อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) บมจ. เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) บมจ. เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น (MSC) หรือ บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) ซึ่งอยู่ที่ 14 เท่า เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

ส่วนนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ที่ปรึกษาการเงินเสริมว่า การที่ NAT เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมากกว่า 20 ปี ครอบคลุมทั้งระบบประมวลฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพ และระบบป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในระดับสูงสุดกับบริษัทชั้นนำระดับโลก อาทิ Dell Technologies และ Genesys ช่วยให้สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ ตอบทุกโจทย์ของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังมีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด จากการที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีความจำเป็นต้องยกระดับการให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค Digital Transformation เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีจุดเด่นเรื่องฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน มีกระแสเงินสดที่ดี และมีความสามารถในการทำกำไรสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน 

ขณะที่นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT สรุปประเด็นสั้นๆ ว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น และมีเงินทุนรองรับการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยการเพิ่มจำนวนบุคลากรให้พร้อมรองรับการให้บริการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และเพิ่มโอกาสรับงานโครงการภาครัฐและเอกชนมากขึ้น ทั้งในแง่มูลค่างาน และการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในอนาคต ตามแผนงานและปรัชญาในการทำธุรกิจ ที่มุ่งหวังผลักดันรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีคุณค่า ในระยะยาว 

สำหรับภาพระยะสั้น ปี 2567 นี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า จะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมกับขยายงานเพื่อต่อยอดการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 3 - 5 ปี