PANEL เคาะราคา IPO หุ้นละ 3.68 บาท เปิดจอง 14-16 ก.พ. นี้ พร้อมเข้าซื้อขายใน mai 22 ก.พ. นี้

5656 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 PANEL เคาะราคา IPO หุ้นละ 3.68 บาท เปิดจอง 14-16 ก.พ. นี้ พร้อมเข้าซื้อขายใน mai 22 ก.พ. นี้


 

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ (PANEL) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.32% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 3.68 บาท เทียบกับราคาพาร์ที่ 0.50 บาท ระหว่างวันที่ 14 - 16 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย คือ บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) และ บมจ. หลักทรัพย์ อาร์เอชบี ประเทศไทย (RHBS) คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้  

ทั้งนี้ การตั้งราคา IPO ที่ 3.68 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 21.90 เท่า เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีก่อน ถึงวันที่ 30 กันยายนปีนี้ ซึ่งถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ ในฐานะผู้นำธุรกิจเฉพาะด้านมากกว่า 30 ปี มีอัตรากำไรสูง มีคู่แข่งน้อยราย และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.6 เท่า เทียบกับอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 2 เท่า

ที่สำคัญ ธุรกิจโรงพยาบาลและโรงแรมกำลังขยายตัวอย่างมาก ทำให้สินค้าของบริษัทฯ มีความต้องการสูงขึ้นมาก จึงมีงานในมือในปริมาณมาก สนับสนุนให้ผลดำเนินงานมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่น เข้าข่ายหุ้นเติบโตสูง

ส่วนนางปิยะภา จงเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ ที่ปรึกษาทางการเงิน PANEL เสริมว่า จากที่ได้ร่วมงานกับ PANEL มากว่า 2 ปี พบว่า PANEL มีฐานลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาลและโรงแรมกว่า 1,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นธุรกิจชั้นนำ อย่างโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี โรงแรม เซนทารา แอท เซ็นทรัลเวิร์ล ซึ่งธุรกิจทั้ง 2 กลุ่มนี้มีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย และเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการสินค้าของบริษัทฯ เติบโตมาก จนจำเป็นต้องขยายกำลังการผลิต และเป็นเป้าหมายหลักในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ เพื่อนำเงินระดมทุนไปใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงาน และซื้อเครื่องจักร 140 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่า 2.5 เท่าตัว และสูงสุดถึง 4.0 เท่าตัว สามารถตอบความต้องการของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มได้ดีขึ้น อีก 30 ล้านบาท นำไปชำระคืนหนี้ที่เกิดจากการซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงานก่อนหน้านี้

 

 

 

 

 


ขณะที่นางจูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PANEL อธิบายว่า บริษัทฯ มีรายได้จาก 2 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มประตูสำหรับโรงพยาบาล ห้องพิเศษ ห้องผ่าตัด ห้อง ICU CCU ห้องรังสีวิทยา จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายประตูอัตโนมัติแบรนด์ระดับโลก MANUSA จากสเปน เพียงรายเดียวครอบคลุมไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และ สปป.ลาว กับกลุ่มผนังกันเสียง ประตูกันเสียง ผนังกันเสียงเคลื่อนที่อัตโนมัติ ที่ใช้ในห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม รวมถึงสำนักงาน ภายใต้แบรนด์ตัวเอง PANELÉS และมีรายได้เสริมจากการให้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลาย บริษัทฯ สามารถยกระดับผลดำเนินงานให้เติบโตแข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับ

โดยผลดำเนินงานย้อนหลัง 2 ปีล่าสุด (ปี 2564-65) บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้น 45% จาก 11 ล้านบาท เป็น 16 ล้านบาท ตามรายได้รวมที่เร่งตัว 59% จาก 70 ล้านบาท มาอยู่ที่ 111 ล้านบาท ที่สำคัญ บริษัทฯ สามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 40% และรักษาอัตรากำไรสุทธิได้ในระดับ 15-19 % ตลอดช่วงปี 2563–65 ซึ่งเป็นช่วงที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด

สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 90.5 ล้านบาท เติบโต 59% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10.4 ล้านบาท เติบโต 333% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และพร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน หลังแผนขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ เสร็จสมบูรณ์

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้