2097 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. เซ็ปเป้ (SAPPE) ประกาศผลดำเนินงานปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,074.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.5% จากปีก่อน ตามยอดขายที่เติบโต 32.5% มาอยู่ที่ 6,052.6 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) สะท้อนให้เห็นความสำเร็จของแบรนด์ไทยที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก ดังนั้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลจากผลดำเนินงานทั้งปีในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่หุ้นละ 2.16 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (XD) วันที่ 24 เมษายน และจ่ายปันผลตามมาในวันที่ 17 พฤษภาคม
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE ชี้แจงว่า ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเกิดจากการเติบโตของยอดขายทั่วโลก นำโดยตลาดต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 81% ของยอดขายรวม ที่เหลือ 19% มาจากยอดขายในประเทศ โดยบริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการขายในตลาดต่างประเทศได้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอังกฤษ ทำให้ยอดขายเติบโตสูงถึง 358% โดยน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว แบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) สามารถสร้างกระแส Brand Love และแผ่อิทธิพลเชิงบวกไปยังตลาดอื่นๆ ในทวีปยุโรปได้สำเร็จ อย่างที่เนเธอร์แลนด์ และประเทศใกล้เคียง หลังจากบริษัทฯ สามารถขยายช่องทางจำหน่ายเข้าสู่ห้างค้าปลีก Mainstream และยังมีแผนจะขยายเพิ่มไปยังห้างค้าปลีกอื่นๆ ที่ยังมีช่องว่าง เพื่อให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม
ขณะที่ยอดขายในเกาหลีใต้ มีการเติบโตกว่า 20% จากการเข้าไปทำการตลาดมากขึ้น เพื่อรักษาแชมป์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่คนเกาหลีใต้ชื่นชอบ ผ่านการใช้ Trend Culture เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น การโปรโมทผลิตภัณฑ์ Mogu Mogu ผ่าน ZEPETO แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หรือ Tie-in ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์เกาหลีของ Netflix และในรายการของวงบอยแบนด์ชื่อดั ง บีทีเอส (BTS) ที่ทรงอิทธิพลระดับโลก
สำหรับแผนดำเนินงาน ปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นผลักดั นผลดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่ งยืนในทุกมิติ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25% จากปีก่อน ผ่านการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อวางจำหน่าย ทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 20 รายการ (SKUs) เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของกลุ่มผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมกับเร่งเครื่องขยายตลาดต่างประเทศเต็มกำลัง เพื่อสานต่อความสำเร็จ โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา ซึ่งได้วางแผนการตลาดเพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกไว้แล้ว ขณะที่ตลาดในประเทศ เตรียมรีแบรนดิ้งเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลขายดี Sappe Beauti Drink คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปลายไตรมาสแรกนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างทดสอบเครื่องจักรในสายการผลิตใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 25% หรือปีละ 44,000 ตัน ให้เพียงพอกับคำสั่งซื้อจากทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพานิชย์ปลายไตรมาสแรกนี้เช่นกัน