LHFG ตั้งเป้าสินเชื่อปีมังกรทองโต 8-10% เน้นธุรกิจ SME และรายย่อย หนุนผลงานทั้งปีโต 10%

นายฉี ชิง ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2567 ว่า พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตทั้งในธุรกิจธนาคาร หลักทรัพย์ และกองทุนรวม ผ่านการขยายฐานลูกค้า และยกระดับบริการทางการเงินผ่าน Digital Platform ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน LHB You และ Profita เพื่อให้สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร ภายใต้การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์

โดยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่งยังคงมีสัดส่วนรายได้สูงเกิน 80% ของรายได้ทั้งหมด ยังคงเดินตามกลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการขยายฐานลูกค้า ทั้งลูกค้ารายย่อย และลูกค้าธุรกิจ ต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 ซึ่งธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,693 ล้านบาท ขยายตัว 54.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ตามรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้น 6.5% เป็น 2.67 แสนล้านบาท (หลักๆ มาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่) เสริมด้วยอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เร่งตัวขึ้น 0.12% มาอยู่ที่ 2.53% และการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ส่งผลให้กลุ่ม LHFG มีกำไรสุทธิ 2,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในระดับ 8-10% ควบคุม NIM ให้ได้ที่ 2.5-2.6% และบริหารสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไม่ให้สูงเกิน 3% ผ่านแผนกระจายพอร์ตสินเชื่อ ทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้า SMEs และลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ 30-35% ควบคู่ไปกับการหารายได้จากธุรกิจ Trade Finance ให้เติบโตเป็น 2 เท่า เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจ และการย้ายฐานการผลิตจากนักลงทุนไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs ที่มีเงินทุนหมุนเวียนจำกัด เพิ่มโอกาสที่ธนาคารจะสนับสนุนสินเชื่อรองรับการขยายธุรกิจในระยะต่อไป

ขณะเดียวกัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Transition Loan) หรือสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ควบคู่กันไปด้วย

สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์ และกองทุนรวม นอกจากจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้มากขึ้นแล้ว ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงยกระดับการให้บริการที่ตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยใช้ Digital Platform  ช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อผลักดันให้รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการขยายตัว 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และขับเคลื่อนให้รายได้รวมทั้งปีของ LHFG เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

ซึ่งนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Fund) กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ พร้อมขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคล พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาผลงานในการบริหารกองทุนรวม ทั้งในและต่างประเทศ ให้อยู่ใน Top Quartiles รวมถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือกอง REITs ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนำเสนอกองทุนใหม่ๆ เป็นทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะกับภาวะตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ไม่คิดรวมกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท 

ส่วนนายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHS) ชี้ว่า จะมุ่งเน้นการเติบโตผ่าน Digital Platform ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการลงทุน และลูกค้ากลุ่ม New Generation ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบวงจรขึ้น โดยตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ตามสภาวะตลาดที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น