SENA ยังลงทุนเพื่อเอาปันผล 8% ได้ ก่อนรอดูผลสำเร็จจากแผนปั้นผลงานทั้งปีโต 35% ต่อ

4389 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SENA ยังลงทุนเพื่อเอาปันผล 8% ได้ ก่อนรอดูผลสำเร็จจากแผนปั้นผลงานทั้งปีโต 35% ต่อ




ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2567 นี้ว่า พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตผ่านการผสานความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้ง SENA, SENX และ SENA Green Energy ในลักษณะ Power Of Together

โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ และแนวสูง 12 โครงการ พร้อมตั้งเป้ายอด Presales ที่ 17,500 ล้านบาท และยอดโอนที่ 12,700 ล้านบาท สำหรับธุรกิจบริหารโครงการและบริการ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,400 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาท คิดเป็นเป้ารายได้รวมที่ 15,100 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 35% ขับเคลื่อนผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ FOCUS, DEEP DIVE และ DELIBERATE

 

 

 


กลยุทธ์ FOCUS จะมุ่งให้ความสำคัญและเจาะลึกเรื่อง segmentation มากขึ้น เน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด 54% ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยตั้งแต่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไปจนถึง 3.6 ล้านบาท ที่เป็นสินค้าที่กลุ่มบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว และมีสัดส่วนโครงการเหล่านี้ประมาณ 32% ของโครงการพร้อมขายทั้งหมดมูลค่ารวม 116,396 ล้านบาท กระจายตัวใน 47 โครงการ จากทั้งหมด 99 โครงการ ขณะเดียวกัน พร้อมก้าวขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในกลุ่ม BOI คอนโดมีเนียม ซึ่งมีข้อบังคับว่า ราคาจะต้องไม่เกิน 1.2 ล้านบาท และขนาดพื้นที่ 24 ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 22 โครงการ ภายใต้แบรนด์ SENA KITH, COZI และ ECO TOWN มูลค่ารวมเกือบ 13,900 ล้านบาท โดยตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดใน 2 เซ็กเมนท์นี้ 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมรุก segment ตลาดบนเพิ่ม ด้วยการเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพในกรุงเทพและปริมณฑล ที่มาพร้อมมาตรฐานการให้บริการระดับ Elite Residences ซึ่งรับรองคุณภาพโดยฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) พันธมิตรจากญี่ปุ่น ภายใต้การบริหารโดย SENX   

ส่วนกลยุทธ์ DEEP DIVE พร้อมเดินหน้าเจาะลึกทุกความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การเป็น Lifelong Trusted Partner ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับลูกค้าทุกช่วงอายุ และทุก Gen เท่านั้น แต่ยังพัฒนานวัตกรรมการจัดการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้การเข้าถึงสินเชื่อบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น และช่วยให้ทุกคนสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ ผ่านการให้บริการจากทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์การเงิน รวมถึงการให้สินเชื่ออเนกประสงค์ เพื่อบริหารจัดการเครดิต ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถช่วยให้ลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้เป็นยอดรวมถึง 300 ล้านบาท   

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Financial Asset ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น และยังสามารถตอบโจทย์ Generation Rent หรือคนกลุ่ม Gen Y และ Z ที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้นอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

ขณะที่กลยุทธ์ DELIBERATE เป็นการสานต่อโจทย์รักษ์โลก (SENA LOW-CARBON) ไม่ว่าจะเป็นบ้านพลังงานเป็นศูนย์ คอนโดมีเนียมรักษ์โลก การติดตั้ง EV Ready บริการรถรับส่งฟรี V Move หรือ Zeroboard แพลตฟอร์มคำนวณการปล่อยคาร์บอน ตลอดจนการใช้แอพลิเคชัน SENA 360 และ SMARTIFY ช่วยให้การใช้ชีวิตแบบ Low Carbon เป็นเรื่องง่าย

พร้อมกันนั้น ยังเตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานสะอาดของ SENA Green Energy ในหลายด้าน ทั้งการขยายธุรกิจโซลาร์สู่ตลาด B2C การก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่ายในธุรกิจ EV Charger ครบวงจร การเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Neta ให้ได้ 1,000 คัน ก่อนต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อให้เป็นมากกว่าดีลเลอร์ทั่วไป รวมถึงการขยายพื้นที่ปลูกป่าเพิ่มจากเฟสแรก 306 ไร่ เป็น 10,600 ไร่   

 

 



ส่วนบริษัทฯ เอง ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 19,800 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 1.984 ล้านต้น รวมถึงสานต่อมาตรการประหยัดพลังงานด้านต่างๆ เพื่อสานต่อจุดยืนในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย 

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เบื้องต้น กสิกรไทย (KS) ขอรอดูผลสำเร็จที่เกิดจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อสร้าง Synergy ภายในกลุ่ม SENA อีกสักระยะ ก่อนพิจารณาทบทวนราคาเหมาะสมที่ให้ไว้เดิมที่ 2.70 บาท แต่กับภาพระยะสั้น การจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.234214 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (ขึ้น XD) ในวันที่ 10 พฤษภาคม คิดเป็นผลตอบแทนมากกว่า 8% จากราคาปิดล่าสุด 2.88 บาท ถือเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาหุ้นได้ จึงแนะนำ ซื้อ

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้