SINO มั่นใจ การผนึกกำลัง SJWD ช่วยเพิ่มความสามารถทำกำไรได้ดีขึ้น หนุนผลงานโตตามแผน

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) ได้เข้าร่วมเป็น Strategic Partner ในบริษัทฯ ด้วยการถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ทำให้มีการผสานความเชี่ยวชาญของ SJWD บนเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลในอาเซียน เข้ากับจุดแข็งของบริษัทฯ ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเล เส้นทางไทย-อเมริกา เป็นอันดับ 3 ของโลก ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับสายการเดินเรือในการจัดหาระวางสินค้า การบริหารต้นทุนค่าระวางให้ดีขึ้น พร้อมกับยกระดับการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลได้ครอบคลุมมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งจากปริมาณตู้ขนส่งสินค้ารวมที่มากถึง 150,000 ตู้ต่อปี และการให้บริการคลังสินค้าให้เช่าในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาคารคลังสินค้าทั่วไป อาคารคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone) ในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หรืออาคารคลังสินค้าในภูมิภาคของ SJWD ได้ ช่วยกระตุ้นอัตราการเช่าพื้นที่ จากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรร่วมกัน รวมถึงลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนคลังสินค้าในอนาคต เพิ่มกำไรจากการให้บริการตามมา

สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 46,000 ตู้ เป็น 53,000 ตู้ ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผลักดันจากแผนรุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเริ่มเห็นความสำเร็จจากความร่วมมือกับพันธมิตรให้บริการเรือลำเลียงตู้ขนาดเล็ก (120 ตู้คอนเทนเนอร์) ภายใต้บริการ CTX Service โดยรับสินค้าจากท่าเรือกัมพูชา มายังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขนส่งสินค้าต่อไปยังอเมริกา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่แผนเปิดสำนักงานใหม่ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการแก่ลูกค้า ประเดิมที่มาเลเซีย ก่อนทยอยขายเพิ่มในหลายประเทศ น่าจะส่งผลให้ปริมาณการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ประเภท SOC และ ISO Tank เพิ่มสูงขึ้น ช่วยต่อยอดรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้า ในช่วงที่ค่าระวางเรือปรับตัวสูง สนับสนุนให้ผลดำเนินงานปีนี้เติบโตดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา