4451 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง (IROYAL) ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมเพื่อจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ ครอบคลุมงานติดตั้ง งานซ่อมบำรุง พร้อมงานให้บริการออกแบบ ให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่น สำหรับโรงไฟฟ้า และโรงงานอุตสาหรรม สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ได้หุ้นจอง และนักเก็งกำไร เมื่อราคาหุ้นเปิดต่ำกว่าราคาจองที่ 6.50 บาท เพียง 5 สตางค์ และดีดขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ 6.60 บาท เหนือจอง 10 สตางค์ ในเวลาไม่ถึง 3 นาที หลังจากนั้น ราคาค่อยๆ ไหลลงเป็นลำดับ ตามแรงซื้อที่บางเบา กระทั่งทำจุดต่ำสุดของวันที่ 5.60 บาท ถึงเริ่มมีแรงซื้อหนุนเข้ามา และดันราคาขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท ต่ำจอง 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางไม่ถึง 400 ล้านบาท
ตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน ราคาหุ้นมีการปรับฐานมากถึง 46% แต่ก็ไม่หลุด 3.50 บาท ส่งผลให้ราคาหุ้นเริ่มฟื้นขึ้นมาแกว่งตัวเหนือ 3.70 บาทได้อีกครั้ง ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน
แต่ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IROYAL ยืนยันว่า พร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโต อย่างโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมีที่มีระบบการเผาไหม้ (Combustion System) โรงงานปูนซีเมนต์ ที่มีระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาล โรงแรม หรืออาคารขนาดใหญ่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน (Uninterruptible Power Supply System) เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเดิม ในกลุ่มโรงไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถลดผลกระทบหรือแก้ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมได้
ขณะเดียวกัน การมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรับงานโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและเอกชนไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ทั้งโครงการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับโรงไฟฟ้า โครงการระบบระบายอากาศในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วงใต้ โครงการ Oil and Gas โครงการติดตั้ง Solar System แบบ PPA และโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยสนับสนุนให้ผลดำเนินงานปีหน้า เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีนี้ พร้อมกับช่วยเพิ่มงานในมือ (Backlog) รองรับการเติบโตของรายได้ในระยะสั้น ตามแผน 3 ปี (ปี 2568-70) ก่อนจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากแผนรุกด้านพลังงานสะอาด ด้านโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น รวมถึงการสร้าง New S-curve ผ่านการซื้อกิจการ หรือร่วมลงทุน ตามแผนระยะกลาง (ปี 2570-72)
สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ IROYAL มีกำไรสุทธิ 47.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.56% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งที่รายได้จากการดำเนินงานจะต่ำกว่าช่วงเดียวปีก่อน 22.95% มาอยู่ที่ 127.70 ล้านบาท สาเหตุจากมีการบริหารต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะทาง (Customize) ได้ตรงความต้องการของลูกค้า ซึ่งยังไม่มีคู่แข่งรายใดสามารถให้บริการแบบนี้ได้ ผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นจาก 24.11% มาเป็น 33.68%
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจโค้งสุดท้ายปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามความต้องการใช้ไฟฟ้า และความต้องการงานวิศวกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และการรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ 140 ล้านบาทบางส่วน หนุนให้รายได้จากการดำเนินงานทั้งปีทำได้ใกล้เคียงปีก่อน ที่ 279 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีก่อน หนุนจากอัตรากำไรสุทธิที่สูง