A5 พร้อมขยายฐานรายได้ แตะ 5,000 ล้านบาท ในปี 2570 รับการย้ายเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

4238 จำนวนผู้เข้าชม  | 

A5 พร้อมขยายฐานรายได้ แตะ 5,000 ล้านบาท ในปี 2570 รับการย้ายเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ



นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) หนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี เปิดเผยถึงการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) เข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พฤศจกิายนที่ผ่านมาว่า ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ยึดมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งศักยภาพการดำเนินงาน รวมไปถึงการเพิ่มโอกาสการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้แก่ผู้ถือหุ้น การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและสร้างสังคมที่ดี ในฐานะบริษัทที่ตระหนักและยึดมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลที่ดีเสมอมา ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนรายได้แตะระดับ 5 พันล้านบาท ภายในปี 2570

เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ พร้อมปรับกลุยทธ์การทำธุรกิจ ด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม อย่างการเริ่มพัฒนาบ้านระดับราคาต่ำกว่า 25 ล้านบาทลงมา เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ช่วยต่อยอดรายได้ให้มากขึ้น พร้อมกับผลักดันการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) นอกเหนือจากธุรกิจให้บริการตกแต่งบ้านที่มีอยู่แล้ว ด้วยการสร้างรายได้ประจำที่อิงกับการท่องเที่ยว โดยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงแรม ในรูปแบบการเช่าที่ดิน รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ตามหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก อย่าง พัทยา ภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจน ทั้งการพัฒนาโครงการในระดับราคาต่ำกว่า 25 ล้านบาทลงมา และการสร้างรายได้ประจำ ภายในปี 2569

สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2567 นี้ ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้แตะ 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนกว่า 66% หลังจากผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,478.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.95% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไร 488.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.59% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลสำเร็จจากการที่บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้งวดไตรมาส 3 ได้เพิ่มขึ้น 30.65% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 558.59 ล้านบาท ถึงแม้กำไรจะทำได้ใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ 178.79 ล้านบาท สาเหตุจากอัตรากําไรสุทธิที่ลดลง จากส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าที่ลดลง อัตรากําไรสุทธิที่ลดลงสําหรับงวดสามเดือนจากส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าที่ลดลง 79% จากช่วงเดียวกันปีก่อน




ส่วนแผนงานในปี 2568 บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เน้นบ้านระดับลักชูรี่ ราคาตั้งแต่ 25 ล้านบาทขึ้นไป อีก 2 โครงการ ในทำเลกรุงเทพฯทั้งหมด มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ประเดิมด้วยการเปิดขายโครงการ CINQ ROYAL The Eighteen บางนา เป็นโครงการแรก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วจากโครงการ CINQ ROYAL กรุงเทพกรีฑา เนื่องจากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน ยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง แม้จะมีการแข่งขันค่อนข้างมาก ในบางทำเลที่มีอุปทานจำนวนมาก แต่หากมองถึงกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบนยังอยู่ในระดับที่ดี เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง และไม่ต้องกังวลเรื่องของการถูกปฏิเสธสินเชื่อ อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยที่เริ่มปรับเป็นขาลง ภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก จะเพิ่มความมั่นใจให้กับลุกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ตามมา




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้