1460 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ไทย โคโคนัท (COCOCO) ผู้ผลิต จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,532.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 11.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเพิ่มขึ้น YoY หนุนจากยอดขายที่เติบโตในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์กะทิ น้ำมะพร้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งผลิตภัณฑ์กะทิ และน้ำมะพร้าว มีการเติบโตเด่นในภูมิภาคอเมริกาและภูมิภาคเอเชีย ขานรับความสำเร็จในการรักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และการขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวได้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตแข็งแกร่งจากตลาดในประเทศ ทั้งจากยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ลูกค้า (OEM)ที่เพิ่มขึ้นตามแผนขยายฐานลูกค้า และยอดขายสินค้าแบรนด์ Moochie ของบริษัทฯ ผ่านการทำตลาดเชิงรุก เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงช่องทาง Online ขณะที่การลดลง QoQ เป็นผลจาก Low Season ของธุรกิจเครื่องดื่มตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้ยอดสั่งซื้อจากลูกค้าในบางตลาดปรับลดลงชั่วคราว ก่อนกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 2 ที่เป็น High Season ของธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ กลับมีกำไรสุทธิลดลง 68.15% YoY และลดลง 22.51% QoQ มาอยู่ที่ 64.86 ล้านบาท ซึ่งการลดลง QoQ เป็นผลจาก Low Season ของธุรกิจเครื่องดื่ม แต่การลดลง YoY กลับมีสาเหตุจากอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ลดลงจาก 26.66% เหลือ 17.99% รับยอดขายผลิตภัณฑ์กะทิที่สูงเกินคาด ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นผลกระทบชั่วคราว
ผลกระทบจากต้นทุนราคามะพร้าวที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก ทำให้ ดร. วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ COCOCO ตัดสินใจทุ่มงบลงทุน 430 ล้านบาท จัดตั้งบริษัทย่อย Novococonut ในฟิลิปปินส์ เพื่อตั้งโรงงานผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิ และผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวอื่นๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านแหล่งวัตถุดิบได้แล้ว ยังจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพียงพอรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดอเมริกาและสหภาพยุโรป รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก จากข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนโลจิสติกส์ที่ต่ำ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ช่วยหนุนรายได้และอัตรากำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งด้านปริมาณ คุณภาพ และความยั่งยืน พร้อมกับสนับสนุนให้รายได้ปีนี้เติบโต 40-50% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้