1474 จำนวนผู้เข้าชม |
ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้และยอดขายปีนี้ใหม่ จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ปัญหาหนี้ครัวเรือนระดับสูง การที่สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ และความกังวลผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยจะหันเน้นมาเน้นธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ผ่านโครงการเช่าออมบ้าน (LivNex) และโครงการเช่าตรงกับโครงการ (RentNex) เพื่อช่วยประคองรายได้รวมไม่ให้ได้รับผลกระทบจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงมากนัก โดยจะมีการประกาศเป้าหมายใหม่หลังจากประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกแล้ว
ปัจจุบัน โครงการ LivNex มีลูกค้า 1,000 ยูนิต ในจำนวนนี้ 50% สามารถกู้ซื้อหรือโอนบ้านได้แล้ว ขณะที่โครงการ RentNex มีลูกค้าระหว่าง 200-300 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 12 โครงการ เป็นแนวราบเพียง 1 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ตามแผนเดิม ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกได้เปิดไปแล้ว 4 โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมจับมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ (HHP) นำเอาองค์ความรู้เรื่องคุณภาพการก่อสร้าง และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ มาใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างเต็มรูปแบบ นำร่องด้วยการฝึกอบรมทีมงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader)
สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หนุนจากการเติบโตในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น ผลักดันให้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 188% มาอยู่ที่ 1,047 ล้านบาท อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ผ่านโครงการ LivNex และ RentNex เพิ่มขึ้น 52% เป็น 46 ล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจพลังงานสะอาด และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้จะถูกกดดันจากรายได้จากการให้บริการที่ลดลง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับรู้รายได้ แต่รายได้รวมยังเติบโต 66% มาอยู่ที่ 1,348 ล้านบาท
ส่วนยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 7,595 ล้านบาท พร้อมรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 4,792 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดทำสัญญาสะสมจากโปรแกรม LivNex จำนวน 662 ยูนิต มูลค่า 1,262 ล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ขณะที่มีสินค้าคงเหลือพร้อมขายอีก 45,670 ล้านบาท ในจำนวนเป็นสินค้าสร้างเสร็จพร้อมขาย ประมาณ 10,532 ล้านบาท และจะมีเพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเสนาคิทท์ บางนา กม.29 เฟส 2 โครงการ เสนาคิทท์ พหลโยธิน-นวนคร เฟส 1 และโครงการ เฟล็กซี่ เมกะ สเปซ บางนา ในปีนี้