1680 จำนวนผู้เข้าชม |
กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นายสยาม ประสิทธิศิริกุล (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล และนางสาวกนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จัดสัมมนาพิเศษสำหรับลูกค้ากรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง ในหัวข้อ Thriving through Volatility เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้รับเกียรติจาก ดร. พิมพ์นารา หิรัญกสิ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ และผู้บริหารสายงานวิจัย BAY พร้อมด้วยพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก Allianz Global Investors, First Sentier Investors และ Schorders มาร่วมอัปเดตสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ที่ยังคงผันผวน จากความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย พร้อมเจาะลึกโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ สรุปได้ว่า ควรแบ่งเงิน 50-70% ลงทุนในพอร์ตหลัก (Core Portfolio) ประกอบด้วย หุ้นอเมริกา ซึ่งยังคงมีคุณภาพและแนวโน้มผลประกอบการเติบโต รวมถึงกองทุนผสม เช่น KFGDB-A ที่ลงทุนหุ้นโลก และกองทุนตราสารหนี้ ผ่านกองทุนหลัก Allianz Dynamic Multi Asset Strategy SRI 50 และ KFGDA-A ที่ลงทุนในทรัพย์สินหลายประเภท เน้นตลาดตราสารทุน และตราสารหนี้ทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 50-70% ของเงินลงทุนทั้งหมด
ส่วนพอร์ตรอง (Satellite Portfolio) ควรกระจายไปยังกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นรายประเทศ เน้นไปที่หุ้นยุโรป จีน และอินเดีย ผสมผสานด้วยสินทรัพย์นอกตลาด อย่าง Private Assets หรือ Structure Notes เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนโดยรวมของพอร์ตลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ