WHAUP พร้อมรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้า ให้เครือสหฟาร์มอีก 46 MW ไตรมาสสุดท้ายปีนี้

1253 จำนวนผู้เข้าชม  | 

WHAUP พร้อมรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้า ให้เครือสหฟาร์มอีก 46 MW ไตรมาสสุดท้ายปีนี้


 

 

บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) และกลุ่มบริษัท สหฟาร์ม จัดพิธีส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์รวม 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วย โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นดิน (Solar Farm) ให้กับบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังการผลิต 20 MW และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) ให้กับบริษัท สหฟาร์ม ที่จังหวัดลพบุรี กำลงการผลิต 9.7 MW ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 22,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (tCO2e) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่า การส่งมอบ 2 โครงการล่าสุดนี้ ทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับกลุ่มบริษัทสหฟาร์ม ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ครบวงจรชั้นนำของไทย ที่ดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 54 ปี เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานครอบคลุมทั้งโรงเชือด โรงแปรรูป โรงเลี้ยงไก่ โรงฟักไข่ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ในเฟสแรกรวม 14 โครงการ ในรูปแบบ Solar Farm, Solar Floating และ Solar Rooftop คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 46.47 MW พร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ถือเป็นการขยายโอกาสในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากคิดรวมความสำเร็จจากโครงการอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทฯ มีกำลังผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มเป็น 200 MW  

ขณะที่ ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ ประธานสายบัญชีและการเงิน บริษัทสหฟาร์ม เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ WHAUP ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผน Go Green ที่มุ่งพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนรอบด้าน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม สอดคล้องกับแนวคิดของผู้บริหารที่เชื่อว่าธุรกิจควรสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่สังคมมากกว่ามุ่งหวังเพียงผลกำไร

สำหรับแผน Go Green เป็นไปตามปณิธานของ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ที่มุ่งหวังให้สหฟาร์มเป็นองค์กรสีเขียวอย่างแท้จริง ผ่านการยกระดับการใช้พลังงานสะอาดในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ กำลังศึกษาแผนนำยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในองค์กร และเตรียมต่อยอดโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เฟส 2 และเฟส 3 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกหน่วยธุรกิจอย่างแท้จริง ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับอุตสาหกรรมเกษตรไทย

 

 


 

 


ส่วนนางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ กรรมการกลุ่มบริษัทสหฟาร์ม เสริมว่า การดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเฟสแรก 14 โครงการ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ปีหนึ่งๆ กว่า 35,000 tCO2e แล้ว ยังจะลดการใช้พลังงานให้กับบริษัทฯ ได้มากถึง 30% ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีหนึ่งๆ มากกว่า 100 ล้านบาท หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญาซื้อขาย 14 ปี

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้