MTC พร้อมขยายสินเชื่อทั้งปีโต 10-15% และคุม NPL ต่ำกว่า 2.7% หลังผลงานไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาสแรก

บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขานรับความสำเร็จในการขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้น 13% YoY และ 4% QoQ หลักๆ มาจากสินเชื่อมีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน ที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 87% ของสินเชื่อรวม และการควบคุมคุณภาพหนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้หนี้เสีย (NPL) ลดลงจาก 2.88% ในไตรมาส 2 ปีก่อน และ 2.75% ในไตรมาสแรกปีนี้ ลงมาที่ 2.62% อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการที่ต้นทุนการเงินลดลงเร็วกว่าคาด ทำให้อัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 50 Basis points จากไตรมาสแรก สนับสนุนให้ผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิเติบโต 14% YoY มาอยู่ที่ 3,218 ล้านบาท ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น 10% เป็น 14,788 ล้านบาท ขานรับแผนขยายสาขาเพิ่มจากสิ้นปีก่อน 262 สาขา เป็น 8,433 สาขา หนุนให้สินเชื่อต่อสาขาเพิ่มเป็น 20.7 ล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อขยายตัว 6% เป็น 1.74 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ บริษัทฯ ได้มีการกันสำรองเพิ่ม ทำให้ Coverage ratio สูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 139%  

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง นายปริทัศน์ เพชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร MTC ชี้แจงว่า พร้อมขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างระมัดระวังต่อเนื่อง เน้นไปที่สินเชื่อจำนำทะเบียน โดยตั้งเป้าสินเชื่อทั้งปีเติบโต 10-15% สอดคล้องกับความต้องการสินเชื่อในต่างจังหวัดที่เร่งตัวขึ้น โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ และจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุม NPL ให้ต่ำกว่า 2.7% และตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่อาจเกิดขึ้น (Credit cost) ให้ลดลงจากไม่เกิน 2.8% เป็นไม่เกิน 2.6% ขณะเดียวกัน จะควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to income ratio) ให้ได้ในกรอบ 47-48% และมี Coverage ratio ในกรอบ 139-140%