CREDIT ยังแจ๋ว กำไร 9 เดือนโตสองหลัก NPL ลด สินเชื่อโตสุดในกลุ่มธนาคาร มีลุ้นปันผลปีนี้ 3.6%

บมจ. ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1.0 พันล้านบาท ลดลง 14.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 9.5% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการลดลง YoY มีสาเหตุจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) ลดลง 2.7% มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท สวนทางค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 4.8% มาอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท อีกทั้งมีการกันสำรองเพิ่ม ทั้งเพื่อบริหารความเสี่ยงจากการขยายสินเชื่อ และเพื่อรองรับความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเกิดในอนาคต ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เพิ่มจาก 146.7% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 154.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ขึ้นมาเป็น 156.6% ทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มเป็น 17.5% ในจำนวนนี้เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 15.4% ตามไปด้วย

ส่วนการเพิ่มขึ้น QoQ มีผลจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) เพิ่มขึ้น 3% เป็น 3.6 พันล้านบาท ตามสินเชื่อที่เติบโต 3.5% เป็น 1.78 แสนล้านบาท (หลักๆ มาจากสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Micro SME ที่เติบโต 14.6% สินเชื่อที่มีบ้านเป็นหลักประกันเพิ่มขึ้น 11.3% และสินเชื่อบุคคลขยายตัวถึง 55.3%) และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ขยายตัวก้าวกระโดด 474.8% มาที่ 171.3 ล้านบาท หนุนจากกำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) โดยเฉพาะเงินลงทุนใน บมจ. การบินไทย (THAI)

อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารออกมาตรการเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ก่อนที่ลูกหนี้จะเป็น Stage 2 และ Stage 3 ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนพนักงานเก็บเงินและเร่งรัดหนี้สิน (Collection) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการติดตามหนี้ให้ได้มากขึ้น และระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และไมโครไฟแนนซ์ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากมาตรการคุณสู้ เราช่วย ช่วยให้การตกชั้นของลูกหนี้ลดลง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) ลดลงจาก 4.5% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 4.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ลงมาที่ 4.2% พร้อมกับหนุนให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 2.8 พันล้านบาท ขณะที่สินเชื่อรวมทั้ง 3 ไตรมาส ขยายตัว 8.9% รักษาสถิติในการเป็นธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อได้สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CREDIT ออกมาเปิดเผยแผนงานช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ด้วยว่า พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างรอบคอบ ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็ง พร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ควบคู่ไปกับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้สินเชื่อทั้งปีเติบโต 10-15% สามารถคุม NPL ได้ต่ำกว่า 4.5% และเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อหุ้น (ROE) ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 15.5% คามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งหากเป็นไปตามแผน ทำให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ค่ายพาย (Pi) ออกมาคาดหมายผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้ในอัตรา 3.6-3.7%