1511 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ (SCG Cleanergy) ในเครือ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเครือเอสซีจี (SCG) จับมือ บริษัท รอนโด้ เอนเนอร์ยี่ (Rondo Energy) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ความร้อน (Heat Battery) ชั้นนำจากอเมริกา เปิดตัวแบตเตอรี่ความร้อนสำหรับอุตสาหกรรมแห่งแรกในอาเซียน ที่โรงงานปูนซีเมนต์ในจังหวัดสระบุรี ซึ่งมีการใช้พลังงานความร้อนอุณหภูมิสูงในปริมาณมาก โดยนำเอาพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานสะอาด มาเปลี่ยนเป็นความร้อนสะอาด ที่สามารถกักเก็บไว้ใช้ในกระบวนการผลิต อีกทั้งยังมีการพัฒนาให้เป็นแบตเตอรี่ความร้อนหน่วยเดียวในโลก ด้วยเทคโนโลยี RHB33 ที่ยังสามารถผลิตไอน้ำแรงดันสูง เพื่อใช้ในการผลิตได้จริง และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในเครือ SCC ช่วยประหยัดต้นทุนพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ควบคู่การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้แก่ลูกค้า ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง โดยตั้งเป้าจะขยายผลโซลูชันในเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
สำหรับแบตเตอรี่ความร้อนสำหรับอุตสาหกรรม สามารถจัดเรียงและปรับขนาด ให้เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าแต่ละประเภท เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละโครงการ จาก 3 ขั้นตอนในการทำงาน คือ ขั้นตอนชาร์จ (Charge) เพื่อชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานสะอาด เช่น ลม หรือแสงอาทิตย์ หรือจากโครงข่ายไฟฟ้า (Grid) โดยใช้เวลาวันละ 6–8 ชั่วโมง ขั้นตอนกักเก็บ (Store) โดยจะแปลงพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเป็นความร้อน ผ่านขดลวดทำความร้อนแบบแผ่รังสี โดยไม่มีการสูญเสียพลังงาน แล้วนำมากักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ความร้อนที่ทำจากอิฐ (Thermal Media) ซึ่งสามารถกักเก็บความร้อนได้ถึงอุณหภูมิสูงสุด 1,500 องศาเซลเซียสนานหลายวัน และขั้นตอนจ่ายพลังงาน (Discharge) ด้วยการจ่ายพลังงานความร้อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการผลิตไอน้ำ ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดถึง 97% และรองรับการทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ โครงการ Heat Battery ยังได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยหน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ถือเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการเร่งนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม เสริมความมั่นคงทางพลังงาน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารต้นทุน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ของกลุ่ม SCG ในปี 2593 ให้บรรลุผลอย่างแท้จริง