BAM เดินหน้ากลยุทธ์ NPA Partnership ร่วมกับ ORN ขยายฐานลูกค้าภาคเหนือ

บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ผนึกกำลัง บมจ. อรสิริน โฮลดิ้งส์ (ORN) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภาคเหนือ ลงนามความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้แนวคิดพลิกทรัพย์ร้าง ให้เป็นทรัพย์สร้างคุณค่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินที่ถือครอง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อและที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ตามกลยุทธ์ NPA Partnership โดย BAM จะทำหน้าที่เป็นคนกลางเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของทุน ผู้พัฒนาโครงการ และผู้บริโภค เพื่อให้การใช้ประโยชน์ จากทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องให้กับ BAM รวมถึงสร้างคุณค่าร่วมในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน 

ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือกับ ORN ครั้งนี้ จะช่วยให้การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจและความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะ ORN เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าในภาคเหนือ ทำให้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และมีความเข้าใจตลาดภาคเหนืออย่างลึกซึ้ง ทำให้การพัฒนาและปรับปรุง NPA สามารถตอบความต้องการของตลาดได้ครบในทุกแง่มุม ทั้งเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชัน และระดับราคาขาย  

ขณะที่นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN ชี้แจงว่า บริษัทฯ พร้อมซื้อทรัพย์มาพัฒนาในปี 2569 ช่วงแรก มูลค่าราว 30-50 ล้านบาท เน้นไปที่ NPA ใน จ.เชียงใหม่ ทั้งที่เป็นบ้านเดี่ยว และอาคารชุด ระดับราคาขายตั้งแต่ 2-20 ล้านบาท มาทำการปรับปรุงสภาพให้พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที โดยจะดำเนินการร่วมกับพันธมิตร บริษัท เอเวอร์ไรซ์ เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรีโนเวทอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน โดยพันธมิตรรายนี้จะทำหน้าที่ทั้งการรีโนเวท ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน และการขายอย่างครบวงจร เน้นขายลูกค้ากลุ่มชาวต่างชาติเป็นหลัก ราว 70% ที่เหลือเป็นคนไทย 

ทั้งนี้ BAM มีทรัพย์ในเขตภาคเหนือ จำนวน 2,689 รายการ มูลค่าราคาประเมินกว่า 9,600 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 1,161 รายการ มูลค่าราคาประเมินประมาณ 3,389 ล้านบาท และห้องชุดพักอาศัย 46 รายการ มูลค่าราคาประเมินประมาณ 73 ล้านบาท