88TH เดินเครื่องบุกตลาดจีน ปั้นผลงานโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังปีนี้ส่อเค้า All Time High

นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บมจ. 88 ไทยแลนด์ (88TH) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม 3 กลุ่ม 3 แบรนด์ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ แบรนด์ไลโอ (LYO) กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แบรนด์โฮน (Hone) และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แบรนด์เวอร์ 88 (ver.88) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ว่า มีแนวโน้มสดใส หนุนจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ และการได้ประโยชน์จากมาตรการคนละครึ่ง พลัส กระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายสินค้า ทั้งผลิตภัณฑ์เก่าและผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านตัวแทนจำหน่าย และโมเดิร์นเทรดเติบโตตามแผนที่วางไว้ อีกทั้งยังได้อานิสงค์จากกระแสไลฟ์สดขายสินค้าในเดือนตุลาคม ช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงการที่บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันรายได้ปี 2568 ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามเป้าหมายที่วางไว้

ซึ่งล่าสุด แผนขยายตลาดต่างประเทศประสบความสำเร็จขั้นแรก ในการรุกตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพเส้นผม รวมถึงมีความเชื่อมั่นในแบรนด์และสมุนไพรของไทย หลังจากบริษัทฯ เซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ LYO อย่างเป็นทางการ 2 ราย คือ บริษัท Shenzhen Suwan New Materials (Suwan) และบริษัท Hong Kong Nexora International (Nexora) โดย Suwan จะรับผิดชอบการขายและทำตลาดทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor) ขณะที่ Nexora จะรับผิดชอบการขายในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์จีน ไม่ว่าจะเป็น Tmall Global, JD Worldwide, Douyin Global, Xiaohongshu Global หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ผลักดันการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 25.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 58.8% ตามรายได้จากการขายและให้บริการที่เพิ่มขึ้น 26.6% มาอยู่ที่ 167.56 ล้านบาท หนุนจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ LYO และกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ Hone ที่เติบโตเกิน 22% และการมุ่งเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่สร้างรายได้เติบโตก้าวกระโดด 114.64% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 65.8% เป็น 68.9% ประกอบกับสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับผลักดันให้ผลดำเนินงาน 9 เดือนปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามไปด้วย โดยมีกำไรสุทธิ 75.81 ล้านบาท เติบโต 133.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้จากการขายและให้บริการที่เพิ่มขึ้น 38.3% เป็น 474.36 ล้านบาท ใกล้เคียงผลดำเนินงานทั้งปี 2567