435 จำนวนผู้เข้าชม |
จุดยืนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ให้สอดรับกับภาวะเงินเฟ้อ และการดูดซับสภาพคล่อง (ทำ QT) ที่เป็นปัจจัยกดดันให้เกิดการปรับพอร์ตหุ้นทั่วโลกรอบใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นในตลาดแนสแด็ก (NASDAQ) สหรัฐฯ เกือบทั้งเดือนมกราคม ทำให้ บลจ.เกียรตินาคิน ภัทร (KKPFG) เล็งเห็นโอกาสทางการลงทุนที่เปิดกว้าง จึงเปิดตัวกองทุนเคเคพี แนสแด็ก 100 (KKP-NDQ100) กำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 24-31 มกราคมนี้
โดย KKP-NDQ100 เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหลักในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ Invesco NASDAQ 100 ETF ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก สหรัฐฯ โดยจะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (NAVs)
ทั้งนี้ กองทุนหลักจะลงทุนไม่น้อยกว่า 90% ของ NAVs ในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี NASDAQ-100 Index ซึ่งประกอบด้วยหลักทรัพย์ของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-financial companies) จำนวน 100 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ทั้งบริษัทในและนอกสหรัฐฯ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งประเภทหลักทรัพย์ที่นับรวมในดัชนีอ้างอิง จะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสามัญ (common stocks/ ordinary shares), tracking stocks, shares of beneficial interest, สิทธิในห้างหุ้นส่วนจำกัด (limited partnership interests) และ American Depositary Receipts (ADRs) ที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ของผู้ออกหลักทรัพย์ที่อยู่นอกสหรัฐฯ
กองทุนหลักใช้วิธีการลงทุนในตราสารทุนที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิง (full replication) โดยมีสัดส่วนตามน้ำหนักของหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีอ้างอิง เพื่อให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับดัชนีอ้างอิง
ณ วันที่ 31 ธันวาคมปีที่ผ่านมา กองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF มีการลงทุนกระจุกตัวในตราสารทุนบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ในสัดส่วน 51% และกลุ่มบริการสื่อสาร (Communication Services) ในสัดส่วน 18% ดังนั้น กองทุนหลักจึงมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology Industry Risk) ทำให้ราคาของหน่วยลงทุนของกองทุนหลักจะมีความผันผวนมากกว่ากรณีของกองทุนที่มีการกระจายการลงทุน ทำให้กองทุน KKP-NDQ100 ไม่มีนโยบายจ่ายปันผลแต่อย่างใด