SCB กำไรไตรมาสแรก 1.01 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสแรกปีก่อน

1028 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SCB กำไรไตรมาสแรก 1.01 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสแรกปีก่อน


บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 10,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการขยายตัวของฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการตั้งสำรองลดลง ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรอง อยู่ที่ 21,713 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4.1% YoY ตามการลดลงของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการลงทุนที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ซึ่งมีการปิดเมืองเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาสแรก 24,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% YoY สาเหตุหลักมาจากการบริหารต้นทุนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สินเชื่อรวมขยายตัวเล็กน้อย ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 12,960 ล้านบาท ลดลง 9.9% YoY ตามรายได้จากเงินลงทุนที่ลดลง และการชะลอตัวของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5.9% YoY เป็น 15,990 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการตั้งสำรองลดลง 12.6% YoY เหลือ 8,750 ล้านบาท เพราะได้ตั้งสำรองไว้ในระดับที่สูงกว่าสภาวะปกติตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) สิ้นไตรมาสแรก อยู่ที่ระดับ 3.70% ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อน เพราะธนาคารมีการติดตามดูแลคุณภาพเงินให้สินเชื่อของลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูง ที่ระดับ 143.9% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ หนึ่งอยู่ที่ 18.6% 

โอกาสนี้ นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ยอมรับว่า ผลดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรก สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีความเปราะบางและมีความแตกต่างในแต่ละภาคส่วน อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายและความผันผวนอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ธนาคารจะยังคงให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบของธนาคาร ผ่านโครงการการปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จภายใต้กรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันยอดสินเชื่อภายใต้โครงการฯ จำนวน 2.49 แสนล้านบาท

พร้อมกันนี้ ธนาคารมีความยินดีกับผลสำเร็จของการแลกหุ้นของธนาคารไปสู่ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ที่ได้รับการตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และฝ่ายจัดการมีความเชื่อมั่นที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวจากการปรับโครงสร้างนี้

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้