DTCENT เตรียมจ่ายปันผลเป็นหุ้น สัดส่วน 25 ต่อ 1 ขึ้น XD 28 เม.ย. นี้
1251 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ผู้นำธุรกิจให้บริการระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) อันดับหนึ่งในประเทศ รายงานผลดำเนินงานปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 641.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากรายได้ในการให้บริการใช้ระบบติดตามยานพาหนะเติบโตตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ลูกค้าและคู่ค้า กลับมาดำเนินธุรกิจ และใช้ระบบ GPS Tracking เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิกลับลดลง 32.70% YoY มาอยู่ที่ 51.98 ล้านบาท เพราะมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น หลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร กับด้านการตลาดเพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจเพิ่มขึ้น
กระน้ั้น บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับรอบบัญชีปีที่ผ่านมา เป็นหุ้นจำนวน 48.2 ล้านหน่วย ให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการจ่ายปันผลคำนวณได้ออกมาเป็นเศษของหุ้น บริษัทฯ จะตัดเศษของหุ้นดังกล่าวทิ้ง และจ่ายเป็นเงินสดให้กับเศษของหุ้นที่ปัดทิ้งในอัตราหุ้นละ 0.022 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 เมษายน และกำหนดวันจ่ายปันผลวันที่ 19 พฤษภาคมนี้
ขณะเดียวกัน นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ DTCENT เปิดเผยแผนธุรกิจปีนี้ว่า บริษัทฯ เตรียมพัฒนาระบบ GPS Tracking และโซลูชั่นใหม่ IoT Solution ไปขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่ไตรมาสแรกนี้ พร้อมกับเตรียมขยายระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบบริหารการจัดการองค์กรส่วนท้องถิ่น (Smart City Solution) เพื่อรองรับโครงการภาครัฐที่เริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายขอบเขตในการให้บริการระบบบริหารจัดการและติดตามกิจกรรมทางธูรกิจ (BAM), EV Platform, และ Logistics Demand-Supply Matching Platform ที่ทำร่วมกับพันธมิตร อย่างบุญรอด ซัพพลายเชน (BRS) เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับ Supply Chain รวมถึงการเข้าเป็น Tier 1 Supplier สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ผ่านพันธมิตร อย่าง ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) จะทยอยเห็นภาพที่ชัดเจนภายในปีนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่า จะผลักดันให้ผลดำเนินงานปีนี้เติบโตจากปีที่ผ่านมาได้ราว 10-15%
