FM ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 270 ล้านหุ้น ยกระดับธุรกิจแปรรูปเนื้อไก่ พร้อมต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

5002 จำนวนผู้เข้าชม  | 

FM ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 270 ล้านหุ้น ยกระดับธุรกิจแปรรูปเนื้อไก่ พร้อมต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง



นายสนิท ดุษฎีโหนด ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้ผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ ไก่แปรรูป และผลพลอยได้จากการชำแหละไก่ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล (OptAsia) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 270 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เพื่อต่อยอดการลงทุน พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเนื้อไก่อย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี และคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อประชาคมโลก 

ด้านนายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM ชี้แจงว่า กลุ่มบริษัทฯ เริ่มต้นธุรกิจจากการทำธุรกิจฟาร์มไก่ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ โรงเชือดและชำแหละไก่ ก่อนจะต่อยอดสู่ธุรกิจผลิตอาหารแปรรูปเนื้อไก่ ผ่านบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ บริษัท เอฟแอนด์เอฟฟู้ด (F&F) ทำธุรกิจโรงเชือดและชำแหละไก่ ที่มีการควบคุมคุณภาพไก่เนื้อภายใต้เกษตรพันธสัญญา ด้วยกำลังการผลิตสูงสุดวันละ 144,000 ตัว บริษัท สปริงคิทเช่น (SK) ทำธุรกิจแปรรูปเนื้อไก่ เน้นรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปไก่ปรุงสุกแช่แข็งภายใต้แบรนด์สินค้าของลูกค้า (OEM) ทั้งรูปแบบนึ่ง ทอด และอบ ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติจาก 5 สายการผลิต มีกำลังการผลิตสูงสุดปีละ 27,000 ตัน โดยสัดส่วนรายได้กว่า 62% มาจาก F&F อีก 37% มาจาก SK

 



นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายขยายสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ผ่านบริษัทย่อยแห่งที่ 3 บริษัท เอฟแอนด์เอฟเพ็ทฟู้ด (F&FP) ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว และมีแผนเปิดดำเนินงานหลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว

สำหรับผลดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2563-65) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 4,268.00 ล้านบาท 4,151.57 ล้านบาท และ 5,807.02 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 255.06 ล้านบาท 183.72 ล้านบาท และ 840.67 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 5.98% 4.43% และ 14.48% ตามลำดับ

ขณะที่ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6.29% มาอยู่ที่ 2,895.56 ล้านบาท แต่กลับมีกำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 50.25% 164.16 ล้านบาท สาเหตุจากต้นทุนในการเลี้ยงไก่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิลดลง ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดจากการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว เพิ่มเข้ามา

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้