1534 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีรายได้รวม 361.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.75% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 248.21 ล้านบาท ที่เหลือมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar ผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter และ EV Charger ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 35.76 ล้านบาท ขยายตัว 799.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 5.11 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนปีนี้ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 6.30 ล้านบาท เทียบกับที่ขาดทุนในครึ่งปีแรก 29.46 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อน โดยทำได้ 839.35 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 496.80 ล้านบาท และธุรกิจเทรดดิ้ง 258.63 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนในการขายและบริหารให้ลดลง
โอกาสนี้ นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QTC ยืนยันว่า รายได้รวมทั้งปีมีแนวโน้มแตะ 1,400 ล้านบาท ทำให้กำไรเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน จากความต้องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เร่งตัวขึ้น หนุนให้ความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมกิจการของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ตลอดครึ่งหลังปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มี Backlog งานธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าที่จะได้เข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ประมาน 430 ล้านบาท จากธุรกิจเทรดดิ้งประมาน 60 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 490 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเติบโตอย่างชัดเจนตามไปด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มทีมขายเพื่อรองรับการขยายงานในการเป็นตัวแทนจำหน่าย และขับเคลื่อนกลยุทธ์การขายแบบเชิงรุก ทั้งด้านการจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar และ Huawei Solar Inverter รวมถึงผลิตภัณฑ์สายไฟ Solar cable ให้กับ JJ-LAPP ซึ่งจะเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นในปีหน้า โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจำหน่ายสายไฟ Solar cable ให้ได้ราว 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน การเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) แห่งที่ 3 ในจังหวัดจันทบุรี คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการลูกค้าได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ พร้อมเร่งเดินหน้าขยายสถานีชาร์จอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของภาครัฐ และส่งเสริมการพัฒนาโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้เพียงพอต่อจำนวนรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต