1822 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ไทย โคโคนัท (COCOCO) ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ 5.4% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ตามรายได้ที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,286 ล้านบาท ขยายตัว 42.5% YoY และ 15.2% QoQ สาเหตุจากยอดขายน้ำมะพร้าวที่เติบโตก้าวกระโดด โดยเฉพาะในตลาดจีน อีกทั้งธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ ส่งผลให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีกำไรจากการดำเนินงาน 389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% YoY ตามรายได้จากการขายและบริการที่ขยายตัว 26.3% YoY มาอยู่ที่ 3,258 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 23.9% เป็น 26.0% YoY
โอกาสนี้ นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ COCOCO ชี้แจงว่า การที่ผลดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น เกิดจากบริษัทฯ สามารถจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจรับจ้างผลิตน้ำมะพร้าว ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 35.21% ได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสามารถบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ และควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดจากขนาด (Economy of scale) หนุนให้ต้นทุนขายและบริการมีสัดส่วนลดลงจาก 76.29% มาที่ 73.95% และยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับแนวโน้มธุรกิจโค้งสุดท้ายปีนี้ ดร. วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COCOCO บอกว่า มั่นใจว่า รายได้ปีนี้จะเติบโต 30% จากปีก่อน เพราะบริษัทฯ มีการลงทุนขยายกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมที่วางไว้ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวที่ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่เติบโตอย่างโดดเด่น ครอบคลุม 90 ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญ แผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวจากปีละ 218,000 ตัน เป็น 310,000 ตัน น่าจะสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้าทันที ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความยั่งยืนในระยะยาว
และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึงตอกย้ำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจในศักยภาพผู้นำผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว และผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวรายใหญ่ของไทย ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์สุขภาพทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน และความตั้งใจจริงที่จะผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COCOCO ได้ซื้อหุ้นบริษัทฯ ในนามส่วนตัวเพิ่มอีก 1.75 ล้านหุ้น ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 7.78 บาท คิดเป็นเงินลงทุน 13.627 ล้านบาท