4788 จำนวนผู้เข้าชม |
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เอเชียนน้ำมันปาล์ม (APO) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 29.41% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
สำหรับจุดเด่นของ APO อยู่ที่ความเชี่ยวชาญในธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ และผลพลอยได้ อีกทั้งยังมีรายได้จากการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ด้วยประสบการณ์ร่วม 40 ปี โดยยึดมั่นกับการดำเนินธุรกิจจากผลิตภัณฑ์การเกษตรแบบบูรณาการและยั่งยืน มีการจัดหาวัตถุดิบและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม มีธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมไปถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชุมชนในท้องถิ่น
ด้านนายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APO เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนใช้เงินจากการระดมทุนไปใช้เพื่อลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินให้มากยิ่งขึ้น รองรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถพัฒนาผลดำเนินงานให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการขาย 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2563-65) เพิ่มจาก 583.86 ล้านบาท เป็น 1,064.62 ล้านบาท และ 2,095.65 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้สามารถพลิกจากขาดทุนสุทธิ 16.16 ล้านบาท มาเป็นกำไร 12.33 ล้านบาท และ 28.25 ล้านบาท ตามลำดับ สาเหตุจากทั้งยอดขายและราคาขายผลิตภัณฑ์จากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่เกิดจากการวางแผนธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการขยายฐานลูกค้า และขยายการรับซื้อ ซึ่งเป็นผลจากดำเนินโครงการ Asian Plus+ ซึ่งมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง หนุนด้วยการเพิ่มขึ้นของทะลายปาล์มสดทั้งประเทศ
ขณะที่ผลดำเนินงานงวดครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงจาก 20.74 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปีก่อน เหลือ 5.45 ล้านบาท ตามรายได้ที่ชะลอตัวจาก 972.47 ล้านบาท ในครึ่งแรกปีก่อน มาอยู่ที่ 720.32 ล้านบาท ตามยอดขายและราคาขายผลิตภัณฑ์จากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับลดลง สวนทางราคาวัตถุดิบที่ทรงตัวเนื่องจากผลผลิตชะลอตัวจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ซึ่งน่าจะเป็นภาวะชั่วคราว
สำหรับโครงสร้างรายได้ของ APO หลักๆ มาจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ในสัดส่วนสูงถึง 85-87% รองลงไปเป็นการจำหน่ายเมล็ดในปาล์ม 10-12% และผลพลอยได้ อาทิ กะลาปาล์ม ราว 1-2% ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า