1748 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็น เอกซ์ (SenX) เปิดเผยว่า เพื่อสานต่อความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึงกว่า 133% ทำให้ปีนี้ บริษัทฯ เตรียมจัดทัพธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการ รวมถึงปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ของอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน และตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด ด้วยการแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Property management and Services, Property Development, Digital และ Retail ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลดำเนินงานเติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 1,425 ล้านบาท หรือขยายตัวมากกว่า 140% ก่อนต่อยอดเป็น Total Property Management and Service Solutions ในอนาคต
โดยกลุ่มธุรกิจ Sen X Property management and Services จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานบริการให้แก่ลูกค้าและลูกบ้าน มาช่วยในงานบริหารจัดการนิติบุคคลในรูปแบบที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ แนวสูง อาคารพาณิชย์ รวมไปถึงศูนย์การค้าแบบครบวงจร โดยตั้งเป้าขยายสัดส่วนการดูแลโครงการนอกกลุ่ม บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เพิ่มเป็น 30% พร้อมขยายตลาดเชิงพาณิชย์ ซึ่งปีนี้จะเข้าไปดูแลพื้นที่อาคารสำนักงานเพิ่มราว 150,000 - 200,000 ตารางเมตร ควบคู่ไปด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์นักลงทุน ผู้ประกอบการ ตั้งแต่เริ่มวางแผนก่อสร้างจนถึงจบโครงการ ครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการพัฒนาที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง การคำนวณด้านการลงทุน ความคุ้มทุน การกำหนดราคาขาย การวาง Concept ของโครงการ รวมถึงงานการตลาดและบริหารงานขาย
ส่วนกลุ่มธุรกิจ Property Development มีแผนเปิดตัวโครการแนวราบระดับ Premium Luxury ที่ยังคงจุดเด่นบ้านใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย Zero Energy House พร้อมนำเทคโนโลยีมาผสมผสานเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจ SenX Digital ซึ่งเปรียบเสมือน Gadget ที่จะนำมายกระดับธุรกิจอื่นๆ ภายในบริษัทฯ ให้มีความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยี กำลังพัฒนาและยกระดับ Smart application ในการบริหารจัดการอาคารให้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นพร้อมกับมีแผนมองหา Partner ด้าน Clean Energy Technology และ Property technology มาร่วมพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ตอบวิถีชีวิตของทุกวัยในยุคปัจจุบัน
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Retail จะมุ่งแก้ปัญหา Pain Point ของลูกบ้านที่ซื้อโครงการใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการตกแต่งต่อเติมที่ต้องให้ช่างเข้ามาวัดพื้นที่ ตีราคา และติดตั้ง ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยเลือกซื้อของตกแต่งบ้านผ่านแพลตฟอร์ม Smartify home ครบจบที่เดียว เนื่องจากมีฐานข้อมูลขนาดพื้นที่ของแต่ละ unit type ในทุกโครงการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน กันสาด หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ